Page 6 - 22432_fulltext
P. 6
5
กรณีแรก คือ ประเทศมีอ านาจในการต่อรองต่ าเมื่อเทียบกับบริษัทต่างชาติเพราะสัดส่วนของผู้
ประกอบธุรกิจในประเทศเหล่านี้นับเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของธุรกิจทั้งหมดที่ประกอบอยู่ทั่วโลกและอาจ
ไม่ได้แม้แต่ถือครองทรัพย์สินใด ๆ ในประเทศนั้น ๆ ในกรณีดังกล่าว หากตัดสินว่าไม่ต้องการใช้กฎหมายของ
ตนกับการกระท าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แม้ว่าประเทศดังกล่าวจะขู่ว่าจะปฏิเสธการเข้าถึงตลาด
ระดับประเทศเพื่อเป็นมาตรการแทรกแซง (sanction) เพื่อควบคุมหรือก ากับดูแลพฤติกรรม ก็เป็นการยากที่
จะส่งผลให้บริษัทต่างชาติมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือพฤติกรรมได้ ในทางกลับกัน การจ ากัดการประกอบ
ธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่เหล่านี้อาจกลับส่งผลในทางลบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเหล่านี้
อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจที่ด าเนินธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงผู้ใช้โดยไม่
จ าเป็นต้องมีทรัพย์สินใด ๆ ในประเทศนั้น ๆ อันเป็นเหตุให้การกระท าของผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้ส่งผลต่อ
ประเทศต่าง ๆ มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่มี “จุดเกาะเกี่ยว” ที่มากเพียงพอส าหรับประเทศที่ไม่มีอิทธิพล
ใด ๆ ต่อพฤติกรรมของบริษัทต่างชาติเหล่านี้แต่ประการใด
Business
Operator
country
ภาพประกอบที่ 1 กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจมี
อ านาจต่อรองเหนือประเทศหนึ่งมาก
กรณีที่สอง คือ กรณีที่ประเทศที่บริษัทต่างชาติมีสินทรัพย์จ านวนมากอยู่ในประเทศนั้นและด าเนิน
ธุรกิจในสัดส่วนที่มากจากมุมมองของผู้ประกอบธุรกิจเองด้วย กรณีดังกล่าว รัฐบาลของประเทศมีอ านาจเหนือ
บริษัทต่างชาติอย่างมาก และหากเลือกที่จะท าก็สามารถควบคุมพฤติกรรมของบริษัทต่างชาติได้มากเท่ากับที่
สามารถควบคุมพฤติกรรมของบริษัทในประเทศได้ หากบริษัทต่างชาติไม่ปฏิบัติตามความต้องการของประเทศ
ประเทศสามารถลงโทษพวกเขาด้วยการคว่ าบาตรทางการเงินที่บังคับใช้กับทรัพย์สินของบริษัท หรืออาจจ ากัด
5
กิจกรรมของบริษัทภายในประเทศ
Business
Country
Operator
ภาพประกอบที่ 2 กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจมี
อ านาจต่อรองเหนือประเทศหนึ่งมาก
5 เพิ่งอ้าง.