Page 138 - kpiebook65020
P. 138

99

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


               กฎหมายในส่วนนี้ จึงเป็นการน าหลักการของการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายมาใช้ประกอบ
               กับขั้นตอนการตรวจสอบเนื้อหาร่างกฎหมาย โดยเน้นไปยัง 4 มาตรการในกฎหมายของไทยที่มักเกิดปัญหา
               หรือสร้างผลกระทบในชั้นการบังคับใช้ คือ การใช้ระบบอนุญาต การใช้ระบบคณะกรรมการ การใช้ดุลพินิจ
               ของเจ้าหน้าที่ และการก าหนดโทษอาญา  การตรวจสอบเนื้อหาของกฎหมายตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์

               การจัดท าร่างกฎหมายฯ จึงมีเป้าหมายของการมีกฎหมายที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายทั่วไปและมีประสิทธิภาพ

                       ดังนั้น นอกจากการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายและการรับฟังความคิดเห็นก่อนการ
               เสนอร่างกฎหมายแล้ว พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของ
               กฎหมาย พ.ศ. 2562 จึงได้ก าหนดให้หน่วยงานของรัฐที่จะเสนอร่างกฎหมายต้องจัดท าและตรวจสอบเนื้อหา
               ของร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ 5 ประการ ได้แก่


                              (1) ร่างกฎหมายต้องสอดคล้องกับหลักการทั่วไปในการตรากฎหมาย
                              (2) ร่างกฎหมายต้องก าหนดให้มีการใช้ระบบอนุญาตเฉพาะกรณีที่จ าเป็น


                              (3) ร่างกฎหมายต้องก าหนดให้มีการใช้ระบบคณะกรรมการเฉพาะกรณีที่จ าเป็น
                              (4) ร่างกฎหมายต้องก าหนดหลักเกณฑ์การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐและระยะเวลาใน

               การด าเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่บัญญัติไว้ในร่างกฎหมายนั้นให้ชัดเจน

                              (5) ร่างกฎหมายต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การก าหนดโทษอาญา

                       2.6.1 การตรวจสอบหลักการทั่วไปในการตรากฎหมาย

                       หลักการทั่วไปในการจัดท าร่างกฎหมายที่หน่วยงานของรัฐต้องตรวจสอบและพิจารณานั้นถูกก าหนด
               ไว้ในมาตรา 21 (1) - (4) แห่งพระราชบัญญัติฯ ซึ่งได้แก่

                       (1)  สอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยในกรณีที่เป็นการจัดท าร่างพระราชบัญญัติหรือ
               ประมวลกฎหมายต้องสอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญด้วย

                       เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นกฎหมายแม่บทของกฎหมายอื่น ๆ อัน

               ก าหนดสิทธิหน้าที่พื้นฐานของประชาชน และวางโครงสร้าง อ านาจหน้าที่ขององค์กรของรัฐ ตลอดจนก าหนด
               ความสัมพันธ์ระหว่างอ านาจหน้าที่ขององค์กรต่าง ๆ ของรัฐ ดังนั้น กฎหมายที่หน่วยงานจะจัดท าขึ้นจะไม่
               สามารถก าหนดให้มีมาตรการ ภารกิจ หรือเนื้อหาอื่นใดที่เกินไปกว่าขอบเขตที่ก าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญได้ ซึ่ง
               รวมไปถึงขอบเขตในการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลด้วย

                       (2) สอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ

                                    146
                       ยุทธศาสตร์ชาติ  เป็นการก าหนดเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล
               เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดท าแผนต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกัน โดยแบ่งได้เป็น 6 ด้าน คือ ด้านความ
               มั่นคง ด้านความสามารถในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ด้านการสร้าง





               146
                   ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580  จาก https://www.nesdc.go.th/download/document/SAC/NS_  PlanOct
               2018.pdf>.
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143