Page 140 - kpiebook65020
P. 140

101

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


                       2.6.2 ระบบอนุญาต

                       มาตรา 21  (5)  แห่งพระราชบัญญัติฯ ก าหนดให้หน่วยงานที่จะเสนอร่างกฎหมายต้องไม่ใช้ระบบ
               อนุญาต เว้นแต่จะมีเหตุจ าเป็นเพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศชาติหรือประชาชน หรือมีกรณีจ าเป็นอันไม่อาจ
               หลีกเลี่ยงได้ โดยในกรณีที่จ าเป็นต้องมีระบบอนุญาต การก าหนดระยะเวลาหรือขั้นตอนในการพิจารณายื่นค า

               ขออนุญาตด าเนินการต่าง ๆ ต้องค านึงถึงหลักการและสาระส าคัญของกฎหมายเกี่ยวกับการอ านวยความ
               สะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการประกอบด้วย

                       การจ ากัดการใช้ระบบอนุญาตในการควบคุมก ากับกิจกรรมในสังคมมาจากแนวคิดที่ว่าในสังคม
               ประชาธิปไตย บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการกระท าหรือไม่กระท าการก็ได้ การแทรกแซงของรัฐในกิจทั่วไปของ
               ประชาชนที่มีผลเป็นการจ ากัดสิทธิและเสรีภาพจึงต้องอาศัยอ านาจแห่งกฎหมายเพียงเท่าที่จ าเป็นเท่านั้น โดย

               ระดับความหนักเบาในการควบคุม ก ากับดูแล และการแทรกแซงของรัฐในการท ากิจกรรมต่าง ๆ ของ
                                               151
               ประชาชน สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระดับ  ดังนี้

                       1. การก าหนดกฎเกณฑ์ให้ปฏิบัติตาม มีวัตถุประสงค์เพื่อวางกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานให้ประชาชนหรือ
               ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม โดยรัฐสามารถติดตามตรวจสอบการด าเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์หรือ
               มาตรฐานดังกล่าวได้ในภายหลัง ทั้งกรณีที่รัฐติดตามตรวจสอบเองหรือกรณีมีผู้ร้องเรียน

                                                                                               152
                       2. การจดแจ้ง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐได้ทราบข้อมูลและสามารถติดตามได้อย่างใกล้ชิด  เป็นกรณี
               ที่รัฐต้องการทราบข้อมูลเชิงสถิติเพื่อใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐ และการก ากับดูแลการท ากิจกรรม หรือ
               การประกอบธุรกิจ โดยก าหนดให้จดแจ้งข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดบางประการต่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบก่อน
               ด าเนินการ โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบมีหน้าที่เพียงยืนยันความครบถ้วนของรายการเท่านั้น

                       การก าหนดกฎเกณฑ์ให้ปฏิบัติตามและการจดแจ้งจึงเป็นการแทรกแซงของรัฐที่กระทบสิทธิเสรีภาพ
               ของประชาชนในระดับต่ า เนื่องจากเป็นมาตรการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการติดตามและการเก็บข้อมูลส าหรับ

               การบริหารจัดการเท่านั้น ประชาชนจึงยังสามารถด าเนินกิจกรรมได้ โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐก่อน

                       3.  การจดทะเบียน/การขึ้นทะเบียน มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและติดตาม ส าหรับกิจกรรมที่มี
               ผลกระทบต่อสาธารณะในระดับที่มิได้รุนแรงมากนัก แต่รัฐจ าเป็นต้องเข้ามาก ากับดูแล เพื่อรับรองคุณสมบัติ
               หรือคุณวุฒิของผู้ประกอบการ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการใช้บริการของประชาชนหรือเพื่อประโยชน์ใน
               การตรวจสอบและการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากภาครัฐ โดยในการรับจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนอาจก าหนด

               คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามได้ ทั้งนี้ หากผู้ขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ก าหนด หน่วยงาน
               ของรัฐไม่อาจปฏิเสธการรับจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนบุคคลนั้นได้

                       แม้ว่าประชาชนจะสามารถลงทะเบียนและด าเนินกิจกรรมได้เลยโดยไม่ต้องรอรับการเห็นชอบจากรัฐ
               การจดทะเบียนหรือการขึ้นทะเบียนก็ยังเป็นการแทรกแซงของรัฐที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ
               ประชาชนในระดับที่รุนแรงมากกว่าการก าหนดกฎเกณฑ์และการจดแจ้ง เนื่องจากรัฐสามารถก าหนด





               151
                  ส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, “รายงานผลการศึกษาของคณะท างานศึกษาหลักเกณฑ์การพิจารณาการก าหนดระบบ
               อนุญาตในกฎหมาย,” (2562) จาก https://www.lawreform.go.th/uploads/files/1579148886-2cqso-rwvy6.pdf.
               152  Cass แบ่งมาตรการการควบคุมเป็น 3 ระดับ คือ การจดแจ้ง ขึ้นทะเบียน และการอนุญาต.
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145