Page 65 - kpiebook65020
P. 65

26

                                                                                     รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                     โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


               ความแม่นย าของการคิดค านวณแต่เป็นการถามค าถามที่ถูกต้อง การเข้าใจผลกระทบในความเป็นจริงและการ
                                45
               ค้นหาข้อสันนิษฐาน ” เพราะฉะนั้นความส าคัญของ RIA จึงไม่ได้อยู่ที่ผลการคิดวิเคราะห์แต่อยู่ที่ขั้นตอนการ
               ด าเนินการจัดท า RIA ที่มุ่งเน้นการคิดวิเคราะห์โดยมีหลักฐานประจักษ์และมีกรอบที่ครอบคลุมเพื่อให้การออก
                                                 46
               กฎทุกครั้งมีความเหมาะสมและอธิบายได้

                              ในอดีต RIA เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกฎหมาย (Regulatory Reform) ที่ใช้ในการค านวณ
               ต้นทุนของกฎที่มีต่อเอกชนและน าไปสู่การผ่อนคลายกฎ (Deregulation) อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันแนวคิดการ
               จัดท า RIA  ไม่ได้มีเพื่อผ่อนคลายกฎแต่เพื่อประสิทธิภาพ (ออกกฎที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้) และ
                                                        47
               ประสิทธิผล (ออกกฎที่มีประโยชน์มากกว่าต้นทุน)  แนวคิดในการท า RIA จึงตั้งอยู่บนหลักพื้นฐานในการออก
                                                              48
               กฎระเบียบที่ดี (Better Regulation) ซึ่งประกอบไปด้วย

                              (1) ความจ าเป็น (Necessity) ในการออกกฎเพื่อไม่ให้มีการออกกฎเข้าแทรกแซงกลไกตลาด
               รวมถึงเสรีภาพของประชาชนมากเกินไป

                              (2) ความมีประสิทธิผล (Effectiveness)  ซึ่งวัดได้จากการตั้งค าถามของผู้ออกกฎว่า ปัญหา
               ที่ผู้ออกกฎต้องการแก้ไขคืออะไร มีนโยบายใดบางที่จะแก้ปัญหานั้นได้ตรงประเด็นมากที่สุด

                              (3)  สัดส่วนที่เหมาะสม (Proportionality)  ของวิธีการบังคับใช้กฎและปัญหาที่กฎต้องการ
               แก้ไข

                              (4)  ความโปร่งใส (Transparency)  ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดท า

               ข้อบังคับ นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การแสดงหลักฐานประจักษ์และเหตุผลที่สมควรตั้งแต่เริ่มต้นวิเคราะห์ปัญหา
               เพื่อออกกฎ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance)

                              (5) ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ (Accountability) ของหน่วยงานต่อการออกและบังคับ
               ใช้กฎ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance)

                              (6) ความสอดคล้องและต่อเนื่อง (Consistency) กับข้อบังคับอื่น ๆ

                              2.1.3.2 ที่มาและพัฒนาการ

                              แนวคิดในการจัดท า RIA เริ่มต้นพร้อมกับแนวคิดรัฐในก ากับสมัยใหม่ (Modern Regulatory
               State) ที่รัฐเข้ามามีบทบาทในการก ากับดูแลการด าเนินชีวิตของประชาชนแทนที่จะปล่อยให้ชีวีตความเป็นอยู่

               ในสังคมถูกควบคุมด้วยตลาดในระบบทุนนิยม ในปีค.ศ. 1981 ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนแห่งสหรัฐอเมริกา
               ได้ประกาศพระราชก าหนด Executive Order 12291 บังคับให้หน่วยงานราชการ (Government Agency)
               ทุกหน่วยจัดท าการวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ (Cost-Benefit Analysis) ก่อนออก “กฎที่มีความส าคัญ




               45  สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย, อ้างแล้ว เชิงอรรถที่ 43, น.21.
               46  เพิ่งอ้าง, น. 20.
               47
                  เพิ่งอ้าง, น. 22.
               48
                  ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, “การพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบ การออก กฎ
               ระเบียบ และกฎหมายของไทย,” (2559) สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563,  จาก https://www.nesdc.go.thm/down
               load / RIA/Development %20of%20Regulatory%20.pdf น.5
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70