Page 67 - kpiebook65020
P. 67
28
รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”
วัตถุประสงค์เหล่านี้เข้ามาอยู่ในกรอบกระบวนการวิเคราะห์กรอบเดียวกันท าให้ผู้ตัดสินใจนโยบายเห็นถึงค่า
เสียโอกาสของการเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง
3. เพิ่มความโปร่งใสและการปรึกษาหารือก่อนออกนโยบาย
การท า RIA ท าให้ผลกระทบของแต่ละนโยบายถูกประเมินอย่างโปร่งใส มีหลักฐานเป็น
ตัวเลขหรือเหตุผลที่ชัดเจน นอกจากนี้ การปรึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือสาธารณะก็นับเป็นขั้นตอนที่ขาด
ไม่ได้ในการจัดท า RIA
4. เพิ่มการตรวจสอบการท างานของภาครัฐ
การที่ภาครัฐจ าเป็นต้องจัดท า RIA ถือเป็นการตรวจสอบภาครัฐในรูปแบบหนึ่ง หากรัฐ
ต้องการออกกฎหรือนโยบาย รัฐจ าเป็นจะต้องอธิบายถึงเหตุผลที่จ าเป็นในการออกและจ าเป็นต้องเลือก
นโยบายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่านั้น ผลการจัดท า RIA จะแนะน าให้ภาครัฐด าเนินนโยบายที่มีประโยชน์
กับสังคมส่วนรวมมากที่สุดแทนที่จะค านึงถึงประโยชน์ของคนบางกลุ่มเท่านั้น หากภาครัฐไม่ท าตามผล
วิเคราะห์ RIA ภาครัฐต้องอธิบายถึงเหตุผลให้ได้ มิฉะนั้นอาจโดนกล่าวหาว่าไม่ได้ค านึงถึงผลประโยชน์
สาธารณะเป็นหลักได้
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจัดท า RIA จะมีประโยชน์ในหลากหลายด้าน ประโยชน์เหล่านี้มัก
ไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีแต่จะค่อยๆเกิดขึ้นและเพิ่มพูนเมื่อมีการจัดท า RIA อย่างต่อเนื่องซึ่งหมายความว่า การ
จัดท า RIA จะต้องเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายดังที่จะกล่าวในหัวข้อถัดไปได้แล้วเท่านั้น
2.1.3.4 อุปสรรคและความท้าทายในการจัดท า RIA
จากการประมวลการจัดท า RIA ในหลากหลายประเทศในกลุ่ม OECD พบว่า หลายประเทศ
ประสบกับอุปสรรคและความท้าทายในการจัดท า RIA ดังต่อไปนี้
1. ขาดการสนับสนุนจากองค์กรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
การจัดท า RIA จ าเป็นต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคจากหลายแขนง ดังนั้น
แล้วปัญหาที่ส าคัญที่สุดในการเริ่มต้นจัดท า RIA คือ การขาดบุคคลากรผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการ
ด าเนินการ ทั้งนี้การจัดท า RIA ในหลายประเทศนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ท าให้นอกจากไม่มีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญ
แล้วยังอาจจะขาดระบบการพัฒนาบุคคล (training) ที่เป็นรูปเป็นร่างอีกด้วย เมื่อขาดองค์ความรู้ในการ
ด าเนินการ การพัฒนาการจัดท า RIA จะเป็นไปได้ยากยิ่ง
2. ขาดการยอมรับจากทั้งภาครัฐและภาคสังคม
การจัดท า RIA นั้นอยู่ในกรอบคิดในการมองกฎหมายว่า กฎหมายเป็นเครื่องมือหนึ่งในสังคม
ที่ต้องสอดคล้องหรือพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายที่ดีตามความหมายของ
RIA นั้นเป็นกฎหมายที่มีผลกระทบในทางบวกมากกว่าทางลบ อาจกล่าวได้ว่า RIA ให้ความส าคัญกับ
ประสิทธิภาพมากกว่าหลักความยุติธรรม แม้ว่าจะมีการโต้เถียงจากนักนิติเศรษฐศาสตร์หลายคนว่า
ประสิทธิภาพทางเศรษฐศาสตร์นั้นสอดคล้องกับความยุติธรรมทางกฎหมายอยู่แล้ว การจัดท า RIA คือการ
เปลี่ยนความคิดและมุมมองพื้นฐานต่อกฎหมายในสังคม ดังนั้นแล้วการจัดท า RIA ในช่วงแรกอาจขาดการ
ยอมรับจากทั้งภาครัฐและเอกชน ท าให้กระบวนการจัดท า RIA ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้