Page 118 - kpi12821
P. 118
แนวทางปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง
เป็นการทำลายระบบหลายพรรคการเมือง – หัวใจของระบอบเสรีประชาธิปไตย และ
95
96
นำไปสู่ระบอบเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์ หรือระบอบเผด็จการระบอบฟาสซิสต์/
97
นาซิสต์ (Fascism/Nazism) ในท้ายที่สุด นโยบายกดขี่-ประหัตประหารชาวยิว (Anti-
Semitism) ซึ่งเท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ไม่ว่าเป้าหมาย
98
ดังกล่าวจะเปิดเผยปรากฏชัดในเอกสารทางการของพรรค หรือเป็นเป้าหมายลับลวง
พรางที่จำเป็นต้องพิเคราะห์พฤติการณ์ต่างๆ ของสมาชิกพรรคโดยละเอียดอีกชั้นหนึ่ง 99
3.3.3 ปัจจัยชี้ขาด: พฤติกรรมของสมาชิกพรรคการเมือง
เบื้องต้น การจะพิสูจน์ได้ว่า พรรคการเมืองใดยึดถืออุดมการณ์ที่
เป็นปฏิปักษ์ต่อหลักการพื้นฐานของระบอบเสรีประชาธิปไตย หรือมีเป้าหมายที่จะ
ล้มล้างหรือคุกคามหลักการพื้นฐานดังกล่าวตลอดจนการดำรงอยู่ของสหพันธ์
สาธารณรัฐหรือไม่ จำเป็นต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พฤติการณ์ของสมาชิกพรรคการเมือง และแม้ว่าพรรคการเมืองจะยึดถืออุดมการณ์
100
หรือมีเป้าหมายดังกล่าวจริง แต่หากปราศจากการกระทำของบรรดาสมาชิกทั้งหลาย
ของพรรคการเมืองเพื่อให้บรรลุซึ่งอุดมการณ์หรือเป้าหมายนั้นๆ เสียแล้ว ก็ย่อมไม่อาจ
วินิจฉัยได้ว่า พรรคการเมืองดังกล่าวมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้ 101
(ก) การจัดโครงสร้างและการบริหารงานภายในพรรคการเมือง
โดยหลัก การที่พรรคการเมืองจัดโครงสร้างและมีระบบการ
บริหารงานภายในพรรคไม่เป็นประชาธิปไตยเพียงเท่านั้นยังไม่เพียงพอที่จะให้ถือเป็น
95 Walter F. Murphy and Joseph Tanenhaus, เรื่องเดิม, น. 606; และ Samuel Issacharoff,
เรื่องเดิม, น. 1434 - 1435.
96 เป็นการประยุกต์แนวคิดมาร์กซิสต์โดยเลนิน เพราะเชื่อว่า สภาพสังคมภายหลังการปฏิวัติ ชนชั้น
กรรมาชีพยังขาดความรู้ความเข้าใจทางการเมือง จึงต้องอาศัยการชี้นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนจะเข้าสู่สังคมใน
อุดมคติ (Utopia) ที่ปราศจากการแบ่งชนชั้น โดยรัฐหมดความจำเป็นและสลายตัวไปในที่สุด โปรดดู ธานินทร์
กรัยวิเชียร, เรื่องเดิม, น. 6 – 21; และ ชาญชัย แสวงศักดิ์, เรื่องเดิม, น. 174 – 178.
97 เป็นระบอบอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จ มิได้มีรากฐานวิชาการ หากแต่ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่า สังคมจะเข็มแข็ง
เจริญก้าวหน้าได้ก็ต่อเมื่อมีการจัดตั้งและชี้นำโดยกลุ่มชนที่มีสติปัญญาและชาติพันธุ์แห่งความเป็นผู้นำเพื่อก่อให้
เกิดความเป็นเอกฉันท์ในสังคม โปรดดู ชาญชัย แสวงศักดิ์, เรื่องเดิม, น. 214 – 222.
98 BVerfGE 2, 1 อ้างถึงใน Walter F. Murphy and Joseph Tanenhaus, เรื่องเดิม, น. 606;
99 BVerfGE 5, 85 (144, 336) อ้างถึงใน Jörn Ipsen, เรื่องเดิม, น. 233.
100 Carl J. Schneider, เรื่องเดิม, น. 538.
101 BVerfGE 5, 85 (142) อ้างถึงใน เรื่องเดียวกัน, หน้าเดียวกัน.