Page 258 - kpi17527
P. 258
ประชาธิปไตยไทยในทศวรรษใหม่
2559
มากขึ้นและหากเป็นการตรวจสอบที่เป็นมิตรก็จะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของ
การบริการที่มีนวัตกรรมที่เหมาะสม และเกิดความคุ้มค่าในการทำงานของภาครัฐ
แล้วเกิดการเรียนรู้ร่วมกันได้ นำมาซึ่งความเชื่อมั่นไว้วางใจในรัฐและสถาบันต่างๆ
รวมทั้งไว้วางใจกันและกันของประชาชน (Putnum, 2000) เกิดสังคมอุดมปัญญา
ที่มีทุนทางสังคมสูง
โดยสรุป ประชาธิปไตยไทยที่ควรจะเป็นจึงน่าจะประกอบไปด้วย
ประชาธิปไตยเชิงสถาบันที่มีมานานแล้วแต่ต้องปฏิรูปเพื่อสร้างความเข้มแข็ง
มีธรรมาภิบาล และประชาธิปไตยในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ชีวาธิปไตย อันเป็น
รูปแบบที่รวมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม แบบพหุนิยม ไปสู่ประชาธิปไตยแบบ
ประชาเสวนาหาทางออก ที่น่าจะนำไปสู่ประชาธิปไตยเชิงสมานฉันท์ในที่สุด
เป็นประชาธิปไตยที่เน้นการเมืองภาคพลเมืองเพื่อให้สังคมมีความยืดหยุ่น ปรับตัว
ได้ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่คงหลักการสำคัญของประชาธิปไตยอยู่
สังคมใดที่มีประชาธิปไตยในลักษณะดังกล่าวนี้ จะเป็นสังคมที่สามารถดูแลตนเอง
2 ได้ในระยะยาว แม้ในยามวิกฤต และยังสามารถช่วยเหลือสังคมอื่นได้อีกด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมไทยแบบดั้งเดิม ที่ผู้คนเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร
มีการเสวนา ฟังกันเป็นเนืองนิจ คิดร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกันบนข้อมูลที่นำมา
แลกเปลี่ยน และใช้ทรัพยากรแบบแบ่งปัน เพราะทรัพยากรที่มีอยู่นั้น ส่วนหนึ่งคือ
ทรัพยากรสาธารณะ ที่มิได้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นการให้ผู้คนใน
สังคมมีโอกาสใช้ชีวิตให้มีความสุขด้วยปัญญา และยึดมั่นในการเอาใจเขามาใส่
ใจเรา และไม่ละเลยภารกิจที่ต้องทำร่วมกันในฐานะพลเมือง นั่นคือ ชีวาธิปไตย
ประชาธิปไตยของคนไทย
ผู้เขียนจึงขอส่งท้ายด้วยบทกลอนที่ได้รับอนุญาตจากท่านศิลปินแห่งชาติ
ในการนำเสนอว่า ประชาธิปไตยไทยที่จะฝังรากและยั่งยืนนั้นขึ้นกับพลเมือง
เป็นสำคัญ ซึ่งต้องรีบเร่งปฏิรูประบบการศึกษาของความเป็นพลเมืองกันอย่าง
เร่งด่วนและจริงจังนับแต่บัดนี้ ก่อนจะสายเกินไป เพราะ
สถาบันพระปกเกล้า