Page 100 - kpi17733
P. 100
8
พบว่าเป็นการสร้างปัญหามากกว่าเดิม เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการพ่นยา
ของกลุ่ม และขอรับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบล การประชาสัมพันธ์
ทุกวันแต่ยังไม่สามารถกำจัดแมลงดำหนาม หนอนหัวดำได้หมด รวมทั้งสารเคมีที่ ชี้แจงข้อมูลและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรแก้ไขปัญหาจนสำเร็จอย่างเข้มแข็ง
ปล่อยพ่นเป็นระยะๆ มีแนวโน้มเป็นอันตรายโดยตรงต่อเกษตรกรและผู้บริโภคทาง จนสามารถกลายเป็นศูนย์เรียนรู้และการศึกษาดูงานการผลิตและขยายพันธุ์แตน
อ้อม เบียนเป็นหลักในพื้นที่ โดยกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างสมาชิกด้วยกันยังนำไปสู่
การพัฒนาออกแบบกระบวนการผลิตเพื่อหาวิธีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธี
ทางกลุ่มจึงร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันและควบคุมการระบาดของ
แมลงดำหนามที่เรียกว่า “โรคหัวหงอก” เพราะแมลงดำหนาม หนอนหัวดำจะเข้าไป อื่นๆ ที่ปลอดภัยต่อได้อีก เช่น วิธีการใช้กากน้ำตาลฉีดพ่นเพื่อให้เกิดเชื้อราไปกำจัด
กัดกินและซ่อนตัวในใบอ่อนที่พับอยู่จนทำให้ยอดอ่อนของมะพร้าวชะงักการเจริญ ศัตรูพืช เป็นต้น นอกจากนี้ทางกลุ่มยังถ่ายทอดความรู้ วิธีการเลี้ยง การเพาะพันธุ์
การทดลองในแปลงทดสอบ และเปิดเป็นศูนย์ให้ยืมอุปกรณ์การเพาะเลี้ยงแตนเบียน
เติบโตเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาวในแต่ละต้น หากมีการทำลายอย่างรุนแรงมากจะ
มองเห็นต้นมะพร้าวทั้งหมดเป็นสีขาวโพลนชัดเจนทั้งต้น ดังนั้น วิธีการกำจัดที่ดีที่สุด ระหว่างสมาชิกที่ต้องการใช้ในการกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งเครือข่ายศูนย์จัดการศัตรูพืช
ชุมชนตำบลอื่นๆ
คือ การกำจัดด้วยวิธีการเบียน (ให้แมลงกำจัดกันเอง) กลุ่มเกษตรกรชาวสวน
มะพร้าวจึงนำเสนอปัญหาและโรคระบาดชนิดนี้ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนอง ความสำเร็จที่โดดเด่นอย่างชัดเจน คือ สามารถยับยั้งสถานการณ์ระบาด
ปลาไหลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำแนะนำ เช่น ขอความรู้จากวิทยากรจาก ของแมลงดำหนาม หนอนหัวดำ ศัตรูของมะพร้าวด้วยชีววิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานเกษตรอำเภอเขาย้อย สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรีซึ่งได้รับคำแนะนำให้ และทันท่วงที กลุ่มเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่เกิดความรู้ความเข้าใจและเกิดการ
ใช้วิธีดังกล่าวและสอนเรื่องเทคนิคการเพาะเลี้ยงแมลงกำจัดดังกล่าวจะได้ผลดีกว่า แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันถึงวิธีการกำจัดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชอย่างมี
และมีความปลอดภัยมากกว่า โดยเกษตรกรจะปล่อยให้แตนเบียนเข้าไปวางไข่และ ประสิทธิผล มีความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลร่วมกันระหว่างกลุ่มเกษตรกรและ
ฟักตัวด้วยการกัดกินแมลงดำหนามซึ่งเข้าไปกัดกินยอดอ่อนที่สุดของมะพร้าวอีกที องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหล และสามารถเผยแพร่ความรู้ดังกล่าวไปยัง
พื้นที่ใกล้เคียงจนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการกำจัดศัตรูพืชโดยไม่ใช้สารเคมี
ทางกลุ่มเกษตรกรจึงรวมกลุ่มกันเพื่อระดมปัจจัยการผลิตในการเพาะเลี้ยง
วัสดุอุปกรณ์ตามความสามารถของสมาชิกกลุ่มเอง เช่น ซื้อกล่องพลาสติกทรง และที่สำคัญที่สุดคือ การยับยั้งอันตรายจากการใช้สารเคมีในการเกษตรกรรมอันจะ
ส่งผลเสียต่อสุขภาพของตัวเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภคทั้งในและนอกพื้นที่ตำบล
กระบอกพร้อมฝาปิด รำแป้ง ปลายข้าว ฯลฯ เพื่อเพาะเลี้ยงแตนเบียน ต่อมาได้รับ
การช่วยเหลือและสนับสนุนเพิ่มเติมจากองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหลเพื่อ หนองปลาไหล
ทำการเพาะเลี้ยงเพิ่มเติมและขยายพันธุ์แมลงดังกล่าวไปยังกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ
นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหลยังร่วมกับกลุ่มดังกล่าวทำ โครงการกลุ่มแม่บ้านผลิตน้ำดื่มตำบลหนองปลาไหล
กิจกรรมการสำรวจเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการเกษตรกรรม โครงการดังกล่าวเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับจากการที่องค์การบริหารส่วนตำบล
เป็นประจำ และตรวจเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในร่ายกายพบว่ามีความเสี่ยง หนองปลาไหลได้รับงบประมาณเพิ่มเติมจากการจัดโครงการเทศกาลนกอินทรี ของดี
อันตรายต่อสุขภาพ เมืองเพชร ประจำปี 2557 การจัดงานดังกล่าวนำมาซึ่งงบประมาณจากจังหวัดที่เข้า
โครงการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงกระบวนการมีส่วนร่วมและความโปร่งใส
มาปรับปรุงระบบประปาจากประปาหมู่บ้านให้เป็นระบบประปาภูมิภาคที่มีมาตรฐาน
ที่โดดเด่น ตั้งแต่การริเริ่มของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตั้งแต่แรกเริ่มในการแก้ไขปัญหา สากลให้กับประชาชนครบทั้ง 5 ชุมชน หลังจากนั้น กลุ่มแม่บ้านตามชุมชนต่างๆ
รางวัลพระปกเกล้า’ 58 รางวัลพระปกเกล้า’ 58