Page 27 - kpiebook63011
        P. 27
     27
                  1.1 บทน�ำ
                          ประชาธิปไตย (Democracy) เป็นระบอบการปกครองที่เติบโตงอกงามจากการยอมรับอำานาจของ
                  ประชาชน สามารถจำาแนกรูปแบบออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ ประชาธิปไตยทางตรง (Direct Democracy)
                  ซึ่งเป็นลักษณะของการปกครองที่ประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนในการปกครองโดยตรง ในกระบวนการกำาหนด
                  นโยบายเพื่อบริหารประเทศ หรือในรูปแบบของการชุมนุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตัดสินใจเรื่องการเมือง
                  แต่ในปัจจุบันภายใต้บริบททางการเมืองสมัยใหม่ ตลอดจนความซับซ้อนของโครงสร้างและปัจจัยแวดล้อม
                  ทางการเมือง เช่น จำานวนประชากรที่มีมากขึ้น การอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของ
                  อาชีพและระดับการศึกษา ทำาให้กฎ กติกาและรูปแบบของการใช้อำานาจของประชาชนในการปกครองตาม
                  ระบอบประชาธิปไตยต้องอาศัยประชาธิปไตยทางอ้อม (Indirect Democracy) โดยใช้อำานาจผ่านการเลือกตั้ง
                  (Election) ในการเลือกผู้แทน (Representative) เพื่อให้ได้มาซึ่งตัวแทนในการใช้อำานาจทางการเมือง
                  การปกครองแทนประชาชน ซึ่งถือเป็นรูปแบบพื้นฐานที่เหมาะสมที่สุดในสังคมการเมืองที่เปิดพื้นที่ของเสรีภาพ
                  ในการเลือกตั้งเพื่อให้ได้ผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง
                          การเลือกตั้งจึงถือเป็นกิจกรรมที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนในฐานะเจ้าของอำานาจอธิปไตย
                  ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อแสวงหาบุคคลหรือพรรคการเมืองในการทำาหน้าที่ทางการบริหารและนิติบัญญัติเพื่อ
                  กำาหนดตัดสินใจเชิงนโยบายและบริหารประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุด สนองตอบความต้องการของประชาชน
                  การเลือกตั้งจึงถือได้ว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มีความสำาคัญ โดยหลักการพื้นฐานในการดำาเนินการ
                  จัดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม เพื่อให้ผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นดั่งกระจกสะท้อนเจตจำานงที่แท้จริง
                  ของประชาชน และยังเป็นตัวชี้วัดพัฒนาการการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประเทศ อีกทั้งการเลือกตั้งยังช่วย
                  ส่งเสริมและกระตุ้นบทบาททั้งในส่วนของพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งในการนำาเสนอนโยบาย ผู้นำา
                  และอุดมการณ์ทางการเมืองที่เป็นทางเลือกที่สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชน
                  คาดหวัง และมีความสำาคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำานาจทางการเมือง
                          นอกจากนี้ การเลือกตั้งยังเป็นกระบวนการที่สะท้อนบทบาททั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนและ
                  ภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นตัวแสดงสำาคัญทางการเมืองที่สามารถส่งผลต่อกระบวนการการเลือกตั้ง และการ
                  เปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน ให้ตอบสนองต่อการส่งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลทางการเมือง
                  ที่มีแนวคิดหรือแนวนโยบายในการใช้อำานาจอันสอดคล้องต่อความต้องการของตนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตลอดจนถึง
                  การตัดสินใจเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม การเลือกตั้งจึงเป็นเครื่องมือสำาคัญและเป็นช่องทางให้ประชาชนเกิด
                  ทางเลือกในการปกครองและสนองตอบความต้องการของตนเอง หากพิจารณาในทางทฤษฎี การเลือกตั้งถือเป็น
                  กิจกรรมที่สำาคัญอย่างยิ่งในกระบวนการทางการเมือง อันเป็นพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
                  ที่เป็นตัวบ่งชี้สำาคัญว่าในช่วงเวลาหนึ่ง คณะบุคคลใดจะได้ทำาหน้าที่ในการบริหารประเทศ และประเทศจะเป็นไป
                  ในทิศทางใด ล้วนมาจากคะแนนเสียงความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่จากกระบวนการเลือกตั้ง โดยการ
                  ตัดสินใจของประชาชนที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อนโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองนั้นๆ





