Page 10 - kpiebook63005
P. 10

9








                          ผลการวิจัยพบว่า แม้พรรคเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร จะสามารถชนะการเลือกตั้งในจังหวัด

                  ขอนแก่นทุกเขตตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา อย่างไรก็ดี ในการเลือกตั้งปีนี้ แม้เขตที่ 3-10 พรรคเพื่อไทยชนะ
                  ทุกเขต ไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด แต่พรรคเพื่อไทยแพ้ในเขตที่ 1 และ 2 กล่าวคือ เขตที่ 1 พรรคอนาคตใหม่

                  ชนะเนื่องด้วยปัจจัยอย่างน้อย 3 ประการคือ ประการแรก อุดมการณ์พรรคการเมืองที่ใกล้เคียงกันและ
                  ความโดดเด่นของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (the Pheu Thai Party’s political ideology was very similar to

                  that of the Future Forward Party and their outstanding leader Thanathorn Juangroongruangkit)
                  ประการที่สอง ความตื่นตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น (the highly political awareness of

                  Khon Kaen University students) และประการที่สาม อิทธิพลทางการเมืองที่ลดน้อยลงของตระกูล
                  พัฒน์ดำารงจิตร (the declining influence of the Pattanadamrongjit family) และความประมาทของจักริน

                  พัฒน์ดำารงจิตร (Chakarin Pattanadamrongjit) แต่หากพิจารณาถึงพรรคการเมืองที่หาเสียงประกาศ
                  ไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพบว่า พรรคการเมืองเหล่านี้ได้คะแนนในเขตที่ 1 รวมกัน

                  คือ 75,746 คะแนน ส่วนพรรคที่ประกาศสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ คะแนนรวมกันคือ 22,632 คะแนน
                  ส่วนเขตที่ 2 พรรคพลังประชารัฐชนะเนื่องด้วยปัจจัยอย่างน้อย 6 ประการดังนี้ ประการแรก เขต 2 เป็นเขต

                  ที่กินพื้นที่อาณาบริเวณกระจัดกระจาย ประการที่สอง การเป็นผู้บริหารท้องถิ่นของนายวัฒนา ช่างเหลา
                  กับโอกาสหลังรัฐประหาร (the local administration and the opportunism after the 2014 coup of

                  Wattana Changlao) ประการที่สาม การได้รับความนิยมจากการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล (the popularity
                  arising from Wattana’s position as the chairman of the Khon Kaen United Football Club) ประการที่สี่

                  บุคลิกส่วนตัวกับความมุ่งมั่นส่วนตัว (Wattana’s characteristics and intentions) ประการที่ห้า ปัญหา
                  ของพรรคเพื่อไทย (problems in the Pheu Thai Party) และประการที่หก การแย่งชิงคะแนนกันเองของ

                  พรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ (the similarity between the Pheu Thai Party’s and the Future Forward
                  Party’s ideology enabled Wattana Changlao to take advantage) กล่าวคือ หากนับเฉพาะคะแนน

                  ที่รวมกันของพรรคเพื่อไทย (34,115) และพรรคอนาคตใหม่ (21,449) จะพบว่ามี 55,564 คะแนน มากกว่า
                  วัฒนาที่ได้ 46,276 คะแนน


                          หากพิจารณาจากผลคะแนนการเลือกตั้งเฉพาะในจังหวัดขอนแก่น พบว่า ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งใน

                  จังหวัดขอนแก่นทั้ง 10 เขต จำานวน 1,037,292 คน เลือกพรรคเพื่อไทย 380,001 คะแนน คิดเป็นร้อยละ
                  36.63 ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง รองลงมาคือเลือกพรรคพลังประชารัฐ 222,075 คะแนน คิดเป็นร้อยละ

                  21.40 และพรรคอนาคตใหม่ 185,895 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 17.92 ที่เหลือเป็นคะแนนจากผู้สมัคร
                  พรรคอื่นๆ บัตรเสียและบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถพิจารณาแยกย่อยได้ดังนี้


                          ประการแรก คนขอนแก่นจำานวนมากยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอันเป็นผลมาจากผลงาน

                  ในอดีตนับตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทยเรื่อยมา แม้จะมีการยุบพรรคกี่ครั้งก็ตาม พวกเขาก็ยังสนับสนุน
                  พรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีอดีต ส.ส. ย้ายไปอยู่พรรคตรงข้ามกับ
                  พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. เหล่านั้นทุกคนก็ไม่ชนะการเลือกตั้ง
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15