Page 59 - kpi12821
P. 59

ณรงค์เดช  สรุโฆษิต




                               หากนายทะเบียนเห็นสมควรจะให้ระงับการดำเนินการของพรรคการเมือง

                    ซึ่งกระทำการตามมาตรา 94 ให้นายทะเบียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการ
                    เลือกตั้งแจ้งต่ออัยการสูงสุดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการกระทำดังกล่าวของ
                    พรรคการเมืองไว้เป็นการชั่วคราว

                               ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดแล้ว ให้นายทะเบียน

                    ประกาศคำสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นในราชกิจจานุเบกษา

                          3.3 ผลของการยุบพรรคการเมืองต่อผู้บริหารและบุคคล
                             ทั่วไป


                               ยกเว้นเฉพาะกรณีการยุบพรรคเพราะมีเหตุให้เลิกพรรคการเมืองตามข้อ
                    บังคับพรรค ที่ต้องใช้กระบวนการยุบพรรคการเมืองแทนเพราะเหตุที่พรรคการเมืองนั้น

                    ยังคงมีสมาชิกพรรคเป็น ส.ส. ตามมาตรา 93 โดยทั่วไปแล้วเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง
                    ให้ยุบพรรคการเมืองใด ความเป็นนิติบุคคลของพรรคการเมืองนั้นย่อมสิ้นสุดลง และมี
                    ผลกระทบต่อผู้บริหารพรรคการเมืองตามระดับความร้ายแรงของการกระทำดังต่อไปนี้

                               (1)  หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคทุกคนของพรรคการเมืองที่กระทำ

                                   ความผิดตามข้อ 3.2 กรณีเหตุกระทำผิดร้ายแรง หรือไม่ดำเนินการให้
                                   ถูกต้องตามกฎหมายตามข้อ 3.1 กรณีเหตุทั่วไป ย่อมถูกจำกัด
                                   เสรีภาพที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่นและ
                                   เสรีภาพในการเข้าชื่อจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่เป็นเวลา 5 ปีนับแต่
                                   วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น 12


                               (2)  หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคทุกคนซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ ณ ขณะ
                                                      13
                                   ที่มีการกระทำความผิด  ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
                                   นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น หาก

                                   ปรากฏว่า หัวหน้าหรือกรรมการบริหารพรรคมีส่วนร่วม รู้เห็น หรือ
                                   ปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำดังกล่าวแล้วมิได้ยับยั้ง
                                   หรือแก้ไขการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ จำกัดไว้แต่เฉพาะการไม่ดำเนิน
                                   การตามข้อ 3.1 (ข.2) การไม่ยื่นรายงานการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของ

                                   พรรคการเมือง หรือยื่นรายงานที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง หรือใช้

                       12   พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2550, ม. 97.

                       13   คดีพรรคชาติไทย ศร. ที่ 19/2551 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 [รจ. ล.126 ต.16ก (19 มีนาคม 2552)
                    น. 79 – 155] น. 99 และ 101.
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64