Page 65 - kpi20686
P. 65

ห น้ า  | 55


                       เจ้าหน้าที่ของหน่วยธุรการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็น
                       ผู้ด าเนินการสอบสวนหรือไต่สวนเบื้องต้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน
                       พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็ได้
                                    มาตรา 235 ภายใต้บังคับมาตรา 236 ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือมีการ

                       กล่าวหาว่า ผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง เฉพาะที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า
                       ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ด ารงต าแหน่งในองค์กรอิสระ
                       หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ใดมีพฤติการณ์ตามมาตรา 234 (1) ให้คณะกรรมการป้องกันและ
                       ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนข้อเท็จจริง และหากมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ

                       กรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอย่ เห็นว่าผู้นั้นมีพฤติการณ์หรือกระท าความผิดตามที่ไต่สวน ให้ด าเนินการ
                       ดังต่อไปนี้
                                      (1) ถ้าเป็นกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้
                       เสนอเรื่องต่อศาลฎีกา เพื่อวินิจฉัย ทั้งนี้ ให้น าความในมาตรา 226 วรรคเจ็ด มาใช้บังคับแก่การ

                       พิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาโดยอนุโลม
                                      (2) กรณีอื่นนอกจาก (1) ให้ส่งส านวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อ
                       ด าเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง หรือด าเนินการอื่น

                       ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
                                    การไต่สวนข้อเท็จจริงและมีมติตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
                       การทุจริตแห่งชาติ ต้องด าเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
                       ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
                                    เมื่อศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองประทับ

                       รับฟ้องให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีค าพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนก
                       คดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง จะมีค าสั่งเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ศาลฎีกาหรือศาลฎีกา
                       แผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองมีค าพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หรือ

                       กระท าความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแล้วแต่กรณี ให้ผู้ต้องค าพิพากษานั้น พ้นจากต าแหน่ง นับแต่วันหยุด
                       ปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นและจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมี
                       ก าหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้
                                    ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าในกรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

                       หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร
                       ท้องถิ่นตลอดไปและไม่มีสิทธิด ารงต าแหน่งทางการเมืองใด ๆ
                                    ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า
                       ผู้ถูกกล่าวหามีความผิดฐานร่ ารวยผิดปกติหรือทุจริตต่อหน้าที่ ให้ริบทรัพย์สินที่ผู้นั้นได้มาจากการ

                       กระท าความผิด รวมทั้งบรรดาทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้มาแทนทรัพย์สินนั้นตกเป็นของ
                       แผ่นดิน
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70