Page 66 - kpi20686
P. 66
ห น้ า | 56
การพิจารณาของศาลฎีกาและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทาง
การเมือง ให้น าส านวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็น
หลักในการพิจารณา และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอ านาจไต่สวนข้อเท็จจริงและ
พยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
ให้น ามาตรานี้มาใช้บังคับแก่กรณีที่บุคคลตามมาตรา 234 (3) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดง
รายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินอันเป็นเท็จหรือ
ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่ง
ทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นด้วยโดยอนุโลม
มาตรา 144 ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปี
งบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณ
รายจ่าย สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจะแปรญัตติเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจ านวนใน
รายการมิได้ แต่อาจแปรญัตติในทางลดหรือตัดทอนรายจ่าย ซึ่งมิใช่รายจ่ายตามข้อผูกพันอย่างใด
อย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เงินส่งใช้ต้นเงินกู้
(2) ดอกเบี้ยเงินกู้
(3) เงินที่ก าหนดให้จ่ายตามกฎหมาย
ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือคณะกรรมาธิการ การเสนอการ
แปรญัตติ หรือการกระท าด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือ
กรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระท ามิได้ ในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ
สมาชิกวุฒิสภา มีจ านวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา
เห็นว่ามีการกระท าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคสองให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อ
พิจารณา และศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับ
ความเห็นดังกล่าว ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการกระท าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคสอง
ให้การเสนอการแปรญัตติ หรือการกระท า ดังกล่าวเป็นอันสิ้นผล ถ้าผู้กระท าการดังกล่าวเป็น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา ให้ผู้กระท าการนั้นสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ศาล
รัฐธรรมนูญมีค าวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งของผู้นั้น แต่ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี
เป็นผู้กระท าการหรืออนุมัติให้กระท าการหรือรู้ว่ามีการกระท าดังกล่าวแล้วแต่มิได้สั่งยับยั้ง ให้
คณะรัฐมนตรี พ้นจากต าแหน่งทั้งคณะนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีค าวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิ
สมัครรับเลือกตั้งของรัฐมนตรีที่พ้นจากต าแหน่งนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้อยู่ในที่ประชุมใน
ขณะที่มีมติ และให้ผู้กระท าการดังกล่าวต้องรับผิดชดใช้เงินนั้นคืนพร้อมด้วยดอกเบี้ย
เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจัดท าโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณ โดยรู้ว่ามี
การด าเนินการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็น
หนังสือหรือมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบ ให้พ้นจาก
ความรับผิด