Page 59 - kpi21078
P. 59
10 จังหวัด...พลังพลเมือง
รอยทางวิถีชุมชนเดิมเริ่มปรากฏ
กระแสการพัฒนาชุมชนม่วงกลวง
เริ่มปรากฎผลขึ้นเป็นลำดับภายใต้หัวขบวน
ผู้นำและภาคีการเปลี่ยนแปลง โดยระหว่าง
ปี 2552-2556 มีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมให้
การสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรอื่น ๆ
เพื่อการพัฒนาชุมชนม่วงกลวงอย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดระนอง อำเภอกะเปอร์ องค์กรพัฒนาเอกชน (พอช.)
UNSCR สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO) อุทยานแห่งชาติ
แหลมสน และสถาบันพระปกเกล้า เพื่อเป้าหมายสำคัญในการพัฒนา
เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของชุมชนม่วงกลวงแต่เดิมให้กลับ
ตลอดจนชุมชนสามารถจัดการตนเอง และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผล
ให้เกิดแผนพัฒนาชุมชน แผนพัฒนาทะเลสาบระนอง เกิดกติการ่วม
เกิดข้อมูล และเกิดกิจกรรมการผลิตอาหารแปรรูปและการท่องเที่ยวชุมชน
ตามรอยทางวิถีชุมชนแต่เดิม กระทั่งเกิดศูนย์เรียนรู้ตำบลม่วงกลวงที่เป็น
ผลผลิตแหล่งรวมข้อมูลและทรัพยากรการบริหารจัดการชุมชนม่วงกลวง
ภายใต้สโลแกน “ทรัพยากรยั่งยืน ประชาชนมั่งคั่ง” ซึ่งเหมือนกับว่า
การขับเคลื่อนงานนี้จะสะดวกราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง และจบลงเพียง
บรรทัดนี้
เพียงหนึ่งหัวขบวนรถจักรมิอาจลากโบกี้อื่นให้ถึงฝั่งฝัน
จากสัญญาณแห่งความรุ่งโรจน์ ผันสู่คำพูดที่ว่า “พี่เห้อเหนื่อยนิ ”
2
เสียงปรารภจากประธานศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง จ.ระนอง
ที่แฝงเร้นถึงความเหนื่อยและท้อแท้ ผสานกับประโยคต่อไปว่า “ช่วงนั้น
เราเชื่อว่าการทำงานของเราจะสามารถสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชนได้ แต่
2 พี่เหอเหนื่อยนิ เป็นภาษาใต้ แปลว่า พี่ครับเหนื่อยครับ
สถาบันพระปกเกล้า