Page 25 - kpiebook66015
P. 25

ตัวแทนของประชาชนนั้น จะลงมติไปในทางที่ยึดถือเจตนารมณ์ของประชาชนยิ่งกว่าเจตนารมณ์ของพรรค

               ตนเอง เพราถ้าหากถูกขับออกจากพรรค ก็มีโอกาสที่จะพ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น

               3.2 ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร

               ไทยหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
                        ในการยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 นั้น ถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกยกร่าง
               ขึ้นภายใต้บริบททางการเมืองที่ประชาชนต้องการปฏิรูประบบการเมืองในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

               การแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตของฝ่ายการเมือง ในขณะเดียวกัน ก็มีการเล็งเห็นถึงความส าคัญในการสร้างระบบ
               การเมืองที่มีเสถียรภาพด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังเมื่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540

               ได้ถูกยกเลิกไป และมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และรัฐธรรมนูญ
               แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในประเด็นที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์
               ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารหลายประการ โดยมีประเด็นที่ส าคัญ


                       3.2.1 การก าหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังคงต้องสังกัดพรรคการเมือง
                        ตั้งแต่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เป็นต้นมา รัฐธรรมนูญ

               ก็ได้ก าหนดไว้เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 ว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น
               สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องสังกัดพรรคการเมือง และการถูกขับออกจากพรรคการเมืองก็ถือว่ามีผลต่อ

               ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเช่นกัน แต่อาจจะมีรายละเอียดและมีเงื่อนไขบางประการที่มีลักษณะผ่อน
                                                                     32
               ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับผลกระทบนั้นมีอิสระมากยิ่งขึ้น  ดังนี้

                        - รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 : ก าหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องสังกัด
               พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งก่อนวันสมัครรับเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน และในกรณีที่ถูกขับออกจากพรรค
               การเมืองด้วยมติสามในสี่ของที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทน

               ราษฎร ก็จะต้องพ้นจากสมาชิกสภาพเว้นแต่จะอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ

                        - รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 : ก าหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องสังกัด

               พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งก่อนวันเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน เว้นแต่กรณีที่มีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจาก
               การยุบสภา รัฐธรรมนูญก าหนดให้ต้องสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง และในกรณีที่

               ถูกขับออกจากพรรคการเมืองด้วยมติสามในสี่ของที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง
               และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะต้องพ้นจากสมาชิกสภาพเว้นแต่จะอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ


                        - รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน : ก าหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องสังกัดพรรค
               การเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งก่อนวันเลือกตั้งอย่างน้อย 90 วัน เว้นแต่กรณีที่มีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการ
               ยุบสภา รัฐธรรมนูญก าหนดให้ต้องสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง และในกรณีที่ถูกขับ

               ออกจากพรรคการเมืองด้วยมติสามในสี่ของที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและ
               สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะต้องพ้นจากสมาชิกสภาพเว้นแต่สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ภายใน 30 วัน





               32  iLaw, เรื่องเดียวกัน



                                                                                                            24
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30