Page 30 - kpiebook66015
P. 30
ยุบสภาได้ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการควบคุมการบริหารราชการ
แผ่นดินดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก าหนดให้การยื่นญัตติเพื่อขอเปิด
อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จะต้องใช้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า แต่ถ้าหากเป็น
กรณีขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจะใช้เสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าหนึ่งในหก
และเช่นเดียวกัน เมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบันก าหนดให้ต้องใช้เสียงสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจ านวนสมาชิกทั้งหมดในการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี และเช่นเดียวกัน เมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้
ที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ประเทศไทยเคยมีการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมาแล้วถึง 42 ครั้ง (ไม่นับรวมกรณีที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา
เมื่อมีการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ) ซึ่งแม้ว่าจะไม่สามารถท าให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากต าแหน่งได้
เนื่องจากโดยระบบรัฐสภาแล้ว เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม บางครั้งการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อาจส่งผลทางการเมืองอย่างอื่นต่อฝ่ายบริหารได้
ที่ส าคัญ ได้แก่
1) การอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจส่งผลให้คะแนนนิยมของฝ่ายบริหารลดลง เช่น การเปิดอภิปราย
ไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถือเป็นการน าข้อผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาลมาเปิดเผยให้
ประชาชนทราบ และข้อมูลที่ถูกน ามาเปิดเผยเหล่านี้ก็อาจจะกลายเป็นข้อมูลส าคัญที่ประชาชนใช้ส าหรับ
ประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นอกจากนี้ ในอดีตที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีที่มีการเลือกใช้กลไกการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจกดดันฝ่าย
บริหารจนน าไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ และผลการเลือกตั้งใหม่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคะแนน
นิยมของรัฐบาลเดิมนั้นลดลงจนท าให้พรรคของรัฐบาลเดิมที่เคยชนะเลือกตั้งไม่ได้เสียงข้างมาก หรือไม่สามารถ
จัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งใหม่ได้ เช่น ในช่วง พ.ศ. 2538 พรรคฝ่ายค้านน าโดยนายบรรหาร ศิลปะอาชา ได้
ขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเรื่องการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดสรรให้แก่คนรวย
จนในที่สุดรัฐบาลน าโดยนายชวน หลีกภัย ตัดสินใจยุบสภาและส่งผลให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนที่จะมีการลงมติ
และผลจากการเลือกตั้งใหม่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้กลายเป็นแกนน าในการจัดตั้งรัฐบาล กรณีดังกล่าว
40
ได้ท าให้เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าแม้การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สามารถจะท าให้นายกรัฐมนตรีพ้นจาก
ต าแหน่งได้ แต่ก็อาจท าให้คะแนนความนิยมของฝ่ายบริหารลดน้อยลงจนอาจน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงทาง
การเมืองอย่างการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้
40 Workpoint Today, ย้อนอดีต ชวน-บรรหาร ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วอยู่ไม่ได้จบด้วยยุบสภา, สืบค้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม
2564 จาก https://workpointtoday.com/mp-14/
29