Page 75 - kpi17527
P. 75
ประชาธิปไตยไทยในทศวรรษใหม่ 2559
5) เสรีภาพ (liberty) = ทำตามสิ่งที่ตนเชื่อ โดยยึดหลักว่าพลเมือง คือ
เจ้าของชีวิตและมีเสรีภาพในประเทศของตนเองในเรื่องต่าง ๆ อีกทั้ง
รัฐต้องประกันเสรีภาพของพลเมืองที่ไม่มีใครพรากเอาไปได้ และ
ประชาชนต้องหวงแหนในเสรีภาพของตนที่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
1) เสรีภาพทางการเมืองร่วมกับอิสรภาพในการพูดและการชุมนุม
2) เสรีภาพในการตระหนักรู้และเสรีภาพทางความคิด 3) เสรีภาพ
ของบุคคลและสิทธิในการถือครองทรัพย์สินส่วนบุคคล และ
4) เสรีภาพจากการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวตามอำเภอใจ
6) ความเท่าเทียม (equality) = ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน แนวคิดนี้
มองว่าพลเมืองทุกคนล้วนเท่าเทียมกันในฐานะเจ้าของประเทศในเรื่อง
ต่างๆ ต้องระวังไม่ให้เกิด “สิ่งกีดขวาง” ความเท่าเทียมกันของพลเมือง
การสร้างความเท่าเทียมสามารถทำได้โดยการลดความเหลื่อมล้ำ
ด้านอำนาจและโอกาสในทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
7) ความหลากหลาย (diversity) = อยู่ร่วมกับทุกฝ่ายได้ คือ
การตระหนักถึงเสรีภาพและยอมรับความหลากหลายของประชาชน
ตระหนักความแตกต่างหลากหลายทั้งด้านอาชีพ รายได้ วิถีชีวิต เพศ
รสนิยม ความเชื่อทางศาสนา ความคิดทางการเมือง ความคิดทาง
เศรษฐกิจสังคม และระมัดระวังไม่ให้ความแตกต่าง กลายเป็นความ
แตกแยกของสังคม พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยต้องยอมรับและ
เคารพความแตกต่างของกันและกัน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
โดยต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่เห็นต่างจากตนและต้องยอมรับ
ว่าคนอื่นมีสิทธิที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากเราได้
8) สัจจะ (truth) = ยึดถือความจริง พลเมืองทุกคนควรยึดถือสัจจะใน
ทางการเมืองทั้งการต่อต้านการกล่าวเท็จ (falsehood) ที่พลเมืองต้อง
มีสำนึกต่อต้านการกล่าวเท็จจากบุคคลผู้มีอำนาจในทางการเมืองและ
ราชการ และต่อต้านการเก็บงำความลับ (secrecy) ที่พลเมืองต้อง
เรียกร้องให้รัฐมีการเปิดเผยหรือยืนยันในเรื่องสำคัญที่รัฐมักปิดเป็น
ความลับโดยอ้างในนามความจำเป็นหรือความมั่นคงของรัฐ กล่าวคือ
สถาบันพระปกเกล้า