Page 74 - kpi20125
P. 74

ส าหรับโครงการของวิทยาลัยเทคนิคชัยนาททั้ง 5 โครงการ มีการด าเนินกิจกรรมที่หลากหลายมากกว่า
               เนื่องจากเป็นเยาวชนที่อยู่ในระดับชั้นการศึกษาที่สูงกว่าและยังได้รับการอุดหนุนงบประมาณในการด าเนินกิจกรรม

               มากกว่าด้วย โครงการจึงเป็นทั้งการประดิษฐ์ ให้ความรู้ รณรงค์และเผยแพร่ โดยเห็นได้ชัดเจนว่า มี 2 โครงการที่
               สอดคล้องกับมาตรการด้านการศึกษา ซึ่งเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้อง การให้ความรู้เกี่ยวกับกฎ
               การจราจร เครื่องหมายการจราจร ป้ายเตือน การเผยแพร่ความรู้ เป็นต้น และมี 3 โครงการที่สามารถพัฒนาต่อไป
               ในอนาคตให้สอดคล้องกับมาตรการด้านวิศวกรรม นักเรียนวิทยาลัยเทคนิคชัยนาทยังด าเนินการได้เพียงการ

               ออกแบบติดตั้งอุปกรณ์ที่ยานยนต์เพื่อให้เกิดการขับขี่ที่ปลอดภัย สอดคล้องกับมาตรการด้านการศึกษาและ
               มาตรการด้านวิศวกรรม โดยพงษ์สิทธิ์ บุญรักษา และคณะ ที่ว่ามาตรการการศึกษาเป็นการให้ความรู้เพื่อให้เกิด
               ทัศนคติและเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนมาตรการด้านวิศวกรรม เป็นการด าเนินการทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้
               เกิดความปลอดภัยทางถนน เช่น โครงสร้างต่าง ๆ ของถนนและทาง และการออกแบบยานพาหนะ (พงษ์สิทธิ์ บุญ

               รักษา และคณะ, 2555, น.9)
                       3. การติดตามและประเมินผล
                       การติดตามและประเมินผลในครั้งนี้แบ่งได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนที่นักเรียนได้ท าการติดตาม
               ประเมินผลโครงการที่กลุ่มของตนได้ด าเนินการ ซึ่งถือว่ามีความสอดคล้องกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม

               (Participatory Action Research: PAR) ที่กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมด าเนินการวิจัยและเก็บข้อมูล โดยข้อมูลที่
               กลุ่มเป้าหมายรวบรวมมานั้นได้ถูกน ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย
                       ในส่วนที่สอง เป็นการติดตามและประเมินผลโดยคณะผู้วิจัยต่อระดับพฤติกรรมและทัศนคติของ

               กลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเปรียบเทียบก่อนการด าเนินโครงการและหลังด าเนิน
               โครงการ ในภาพรวมทั้งสองสถานศึกษามีแนวโน้มพฤติกรรมและทัศนคติที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาลัยเทคนิค
               ชัยนาทกับประเด็นเรื่องการใช้หมวกกันน็อคและการขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่มีระดับพฤติกรรมและทัศนคติภายหลัง
               การด าเนินกิจกรรมสูงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้มีประสบการณ์ตรงในการใช้ยานยนต์
               นั่นเอง

                       จากการติดตามและประเมินผลนี้ ท าให้ทราบว่ากระบวนการประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่ได้น ามา
               ประยุกต์ใช้นี้ท าให้เกิดการเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม สอดคล้องกับที่พงษ์สิทธิ์ บุญรักษา และคณะ กล่าวว่า
               มาตรการให้การศึกษา ท าให้เกิดการปรับเปลี่ยนค่านิยมและทัศนคติและน าไปสู่พฤติกรรมการปฏิบัติที่ถูกต้องและ

               ปลอดภัย (พงษ์สิทธิ์ บุญรักษา และคณะ, 2555, น.9) สอดคล้องกับ Twisk et al ว่าพฤติกรรมของการขาดการ
               ป้องกันนั้นไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยกฎจราจร แต่ขึ้นอยู่กับความตระหนักส่วนบุคคลในเรื่องของภัยมากกว่า ซึ่งการให้
               การศึกษาจะช่วยให้เกิดความตระหนักขึ้นได้ (Twisk et al., 2015, p.54) และสอดคล้องกับ Staton et al ที่ได้
               ศึกษาถึงการใช้มาตรการสร้างจิตส านึกสาธารณะและการให้การศึกษาในบราซิลที่มีการใช้มาตรการรณรงค์ การ

               ฝึกอบรมในศูนย์สุขภาพ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และยังมีการท ารณรงค์สาธารณะด้วยสื่อวิดีโอ แผ่นพับ ของที่
               ระลึก ฯลฯ ผลก็คือ ท าให้การบาดเจ็บจากรถชนลดลง มีอัตราการเสียชีวิตและการบาดเจ็บรุนแรงลดลงถึงร้อยละ
               26 และยังลดการส่งเข้ารักษายังห้อง ICU ได้ถึงร้อยละ 25.6 (Staton et al, 2016, p.10)
                       อย่างไรก็ดี ยังไม่อาจสรุปได้ทั้งหมดว่ามาตรการทางการศึกษาจะท าให้เกิดทัศนคติและพฤติกรรมที่

               เปลี่ยนไปได้จริงหรือไม่ สอดคล้องกับ Staton et al ที่ตั้งข้อสังเกตว่า พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลจาก
               มาตรการทางการศึกษาค่อนข้างจ ากัดแม้จะก าหนดไว้ในกฎหมายก็ตาม (Staton et al, 2016, p.11)



                                                             62
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79