Page 21 - kpi20756
P. 21
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21 21
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
เศรษฐกิจ” (economic inequality) ตามมา ซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งในแง่
ความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับภาคเกษตรกรรม รวมถึง
ระหว่างผู้มีรายได้มากและผู้มีรายได้น้อย จนเป็นที่มาของวลีในสังคมไทยที่ว่า “รวยกระจุก
จนกระจาย” ซึ่งวลีดังกล่าวนี้ สามารถยืนยันสภาพความเป็นจริงได้จากรายงานของ The Credit
Suisse Global Wealth Report ในปี พ.ศ.2561 ที่ระบุว่าไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำ
สูงที่สุดในโลก โดยคนไทยเพียงร้อยละ 1 ถือครองความมั่งคั่งถึงร้อยละ 66.9 ของทรัพย์สินรวม
ทั้งประเทศ
สำหรับประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นนี้
ถือเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตยที่มั่นคง (Consolidated
democracy) ในขณะเดียวกัน การที่ประชาธิปไตยไม่มีคุณภาพ ก็ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
ในสังคมสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุสำคัญมาจากความไม่เป็นธรรมของกฎหมาย นโยบาย
ทั้งในสาระและกระบวนการ กลไกของรัฐที่มีการจัดการทรัพยากรและอำนาจแบบรวมศูนย์
กระทั่งการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ การสะสมปัญหาที่ยาวนานส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง
ทางการเมืองและสังคมตามมา แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลได้พยายามที่จะผลักดัน
กฎหมาย นโยบาย รวมทั้งการปรับสมดุลของกลไกรัฐในเรื่องต่าง ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทาง
เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถลดระดับความรุนแรงของปัญหาได้เท่าที่ควร ดังนั้น
ในการประชุมกลุ่มย่อยนี้ จึงมุ่งหวังให้วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการ มาร่วมแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นในการวิเคราะห์สถานการณ์ สภาพปัญหา ตลอดจน เสนอแนวทางการลดความ
เหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจด้วยการปรับปรุงกลไกและกระบวนการประชาธิปไตยให้มีคุณภาพจาก
ประสบการณ์ของไทยและต่างประเทศที่จะนำไปสู่การสร้างสังคมสันติสุขและเป็นธรรม
ประเด็นในกลุ่มย่อยที่ 3
๏ แนวทางการปฏิรูปกระบวนการประชาธิปไตยที่จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทาง
เศรษฐกิจ
๏ กระบวนการทางนโยบายที่มีประสิทธิภาพในการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
๏ แนวทางการออกกฎหมาย/กลไกตามรัฐธรรมนูญที่ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทาง
เศรษฐกิจ
๏ การพัฒนาระบบการเมืองการปกครองที่สามารถผลักดันให้เกิดความเสมอภาคทาง
เศรษฐกิจ
๏ แนวทางการปฏิรูปกลไกรัฐที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ