Page 43 - kpi21668
P. 43
การเสวนาปรึกษาหารือเพื่อสันติ (Deliberative Dialogue for Peace) 41
ส่วนใหญ่ในที่ประชุมซึ่งเกิดได้ง่ายกว่า แต่เนื่องจากความเห็นพ้องเป็น
รูปแบบการตัดสินใจที่ถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างจากการตัดสินใจ
โดยใช้เสียงข้างมาก (Mmajority Decision) ฉะนั้น ความเห็นพ้องจะไม่เน้น
ที่การลงคะแนนเสียง เพราะการลงคะแนนเสียงอาจทำาให้เสียงข้างน้อย
(Minorities) ถูกละเลยไปได้ ดังนั้น ความเห็นพ้องจึงเน้นไปที่กระบวนการ
ในการอภิปรายถกเถียง รับฟังความคิดเห็นเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน
ระหว่างทุกฝ่ายมากกว่า หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ความเห็นพ้องเป็น
รูปแบบการตัดสินใจที่จะป้องกันปรากฏการณ์ที่เรียกว่า เผด็จการเสียง
ข้างมาก (Majority Tyranny) การตัดสินใจแบบความเห็นพ้อง
เป็นกระบวนการตัดสินใจที่กลุ่มคนจำานวนมากอาจเห็นไม่ตรงกัน
แต่ต้องการให้เกิดการมีส่วนร่วมและความเห็นพ้องต้องกันมากที่สุด
สำาหรับกรณีที่การแสวงหาฉันทมติไม่เกิดขึ้น คือ ไม่เกิด
การเห็นพ้องต้องกันส่งผลให้ผู้เข้าร่วมไม่เห็นด้วย สิ่งที่ต้องคำานึงและ
ต้องสร้างให้เกิดขึ้นในกระบวนการ คือ (1) การสร้างความเห็นพ้อง
ในหลักการใหญ่ (Meta-Consensus) แล้วค่อยไปลงรายละเอียดกัน
ในโอกาสต่อไป (2) การสร้างความเข้าใจในเงื่อนไขของกันและกัน (Mutual
Understanding) หรือ (3) การสร้างการยอมรับให้ได้ว่ามีความคิดเห็นที่
ไม่ตรงกันอยู่โดยให้รับรู้ถึงความแตกต่างของความคิด (Recognition of
Differences) มิเช่นนั้นเวทีนั้นก็จะไม่มีความหมายสำาหรับกระบวนการ
เสวนาปรึกษาหารือเพื่อสันติ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะพงษ์ บุษบงก์ จากสถาบันนโยบาย
สาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้ข้อคิดเห็นไว้ว่า “แม้ว่ากระบวนการ
เสวนาเพื่อหาทางออกมีข้อจ�ากัดและปัญหาอุปสรรคบางประการ เช่น
inside_ cc.indd 41 14/12/2563 19:40:30