Page 44 - kpi21668
P. 44
42
วิทยากรกระบวนการและผู้เข้าร่วมกระบวนการไม่เข้าใจแนวคิดหลัก
แต่จากการมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการใช้แนวทางนี้ในต่างประเทศ
ท�าให้มีมุมมองว่าในเชิงเปรียบเทียบ กระบวนการปรึกษาหารือเป็นไปได้ดี
กับสังคมไทยพอสมควร กล่าวคือ จากที่สังเกตมา เวลามีเวทีในลักษณะนี้
ขึ้นในประเทศไทยเรา มักจะมีผู้สนใจเข้าร่วมจ�านวนไม่น้อย ซึ่งหลายคน
อาจจะแย้งว่ามีไม่มากนัก แต่หากไปเทียบกับเวทีในหลายประเทศ
จะเปลี่ยนความคิดไปเลยว่านั่นนับว่ามากพอสมควรแล้ว อาทิ บางเวที
ในสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน และแม้แต่สหรัฐอเมริกา
พบว่า คนมาร่วมน้อยมาก หลายงานต้องพับเวทีเลยทีเดียว ซึ่งส่วนหนึ่ง
มองว่าเป็นเพราะบรรยากาศแห่งเสรีภาพในประเทศเหล่านั้นมันมีอยู่ทั่วไป
จนคนไม่ได้ต้องโหยหา ในขณะที่ประเทศไทยเวทีเช่นนี้นับเป็นโอกาสให้
ประชาชนได้ออกมาสัมผัสกับบรรยากาศ และได้ใช้สิทธิพลเมืองของตน”
นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ปิยะพงษ์ บุษบงก์ ได้กล่าวถึง
ในแง่การส่งเสริมให้มีการใช้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในประเทศไทย
ให้มากยิ่งขึ้นไว้ว่า “เมื่อเปรียบเทียบกับจีน สิงคโปร์ และบราซิล จะเห็นว่า
เงื่อนไขเชิงสังคมการเมืองกับไทยไม่แตกต่างกันมากนักนั่นคือ ยังมี
ปัญหาประชาธิปไตย ความเหลื่อมล�้า การกดทับ และการจัดช่วงชั้นทาง
สังคม แต่เวทีสานเสวนาสาธารณะในประเทศเหล่านี้เกิดขึ้นเข้มข้นมาก
(เช่น Deliberative Polling และ Deliberative Participatory (Budgeting)
ดังนั้น จึงชวนคิดว่าแล้วท�าไมจะยกระดับเรื่องนี้ในสังคมไทยให้เกิดขึ้น
กว้างขวางกว่านี้ไม่ได้ นั่นคือ ถึงจะมีปัญหาอุปสรรคก็ต้องฝ่าข้ามไปให้ได้
มิใช่ไปน�ามาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธกระบวนการเช่นนี้”
inside_ cc.indd 42 14/12/2563 19:40:30