Page 32 - kpiebook62015
P. 32

2.2.2.1 ผลการด าเนินงานตามวัตถุประสงค์โครงการ ซึ่งประกอบด้วย (1) เพื่อ

                        เสริมสร้างความเป็นพลเมืองในพื้นที่ศึกษา (area  based)  ให้ประชาชนมีความตระหนักใน
                        ความส าคัญและบทบาทภารกิจของพลเมืองประชาธิปไตยของตนเอง (concerned  citizen)

                        และพัฒนาสู่การเป็นพลเมืองที่ลงมือกระท าการใด ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งทางการเมือง
                        สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งเรียกว่าพลเมืองที่กระตือรือร้น (active  citizen)  (2)  เพื่อบูรณาการ

                        ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

                        และ (3)  เพื่อพัฒนาต้นแบบกระบวนการสร้างความเป็นพลเมืองส าหรับขยายผลในพื้นที่ต่อไป
                        พบว่า

                                              2.2.2.1 (1)  การเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในพื้นที่ศึกษา
                                                                                   2
                                                     พลเมืองมีความเป็นพลเมืองเพิ่มขึ้น   และมีพลเมืองน าเสนอ
                                                     นโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาส่วนร่วม 7 ประเด็น เสนอต่อรอง

                                                     ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชยันต์ ศิริมาศ และ




                        2
                           พลเมืองผู้มีความตระหนักรู้ (concerned  citizen)  ประกอบไปด้วย คุณลักษณะ 4 ข้อ คือ

                        ความสนใจ ความรู้ ความตระหนักในศักยภาพของตน และความตระหนักถึงสังคม คะแนนความ
                        ตระหนักถึงสังคมของกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าอบรมและกลุ่มตัวอย่างทั่วไปมีค่าสูงที่สุดที่ 9.04 และ

                        8.57 พลเมืองที่มีความสนใจ และพลเมืองที่มีความรู้ โดยพลเมืองที่มีความตระหนักในศักยภาพ
                        ของตนเองของกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าอบรมและกลุ่มตัวอย่างทั่วไปมีค่าต่ าที่สุดที่ 7.18 และ 5.58

                        พลเมืองผู้มีความกระตือรือร้น (active  citizen)  ประกอบไปด้วย คุณลักษณะ 4 ข้อ คือ การ

                        แสดงออกด้วยตนเองทางสังคม การแสดงออกด้วยตนเองทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางสังคม
                        และการมีส่วนร่วมทางการเมือง พบว่า การแสดงออกทางสังคมของ กลุ่มตัวอย่างผู้เข้าอบรมและ

                        กลุ่มตัวอย่างทั่วไป ทั้งการแสดงออกโดยตนเองหรือร่วมกับผู้อื่น มีคะแนนสูงกว่าการแสดงออก
                        ทางการเมือง โดยการลงมือปฏิบัติทางสังคมด้วยตนเอง มีคะแนนสูงที่สุดที่  9.27 และ 8.53 ตาม

                        ด้วยการร่วมกับผู้อื่นในการมีส่วนร่วมทางสังคมที่ 9.24 และ 7.77 ส่วนการลงมือปฏิบัติทางการ

                        เมืองด้วยตนเองของกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าอบรมและกลุ่มตัวอย่างทั่วไปมีคะแนนที่ 8.12 และ 6.74
                        ตามล าดับ และการมีส่วนร่วมทางการเมืองมีคะแนนน้อยที่สุด โดยกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าอบรมได้

                        คะแนน 6.43 กลุ่มตัวอย่างทั่วไป 5.05 คะแนน (ที่มา - รายงานตัวชี้วัดความเป็นพลเมือง  ใน

                        โครงการปฏิบัติการเสริมสร้างพลังพลเมือง  (Citizen  Empowerment  For  Healthy
                        Democracy: KPI-CE) ส านักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมือง ประจ าปี 2560)




                                                               23
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37