Page 60 - kpiebook65030
P. 60

59


               ภาษาจีนเรียกว่า “ฉางเจิง” ส่งผลให้พรรคคอมมิวนิสต์อ่อนแอลงอย่างมาก
               จากทหาร 69,000 คน ช่วงเริ่มเดินทาง เหลือเพียง 7,000 คน ในช่วงสุดท้าย

               อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมากจากการรุนรานของญี่ปุ่น
               จนทำาให้พรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ต้องร่วมมือกัน จนนำาไปสู่

               การขึ้นมามีอำานาจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการอพยพไปที่ไต้หวันของ
               พรรคก๊กมินตั๋งในที่สุด



               รัฐธรรมนูญจีนสมัยเหมำ เจ๋อ ตุง


                       พรรคอมมิวนิสต์จีนได้รับชัยชนะในสงครามการเมือง ได้ก่อตั้ง
               สาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้น ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ทางพรรคคอมมิวนิสต์

               และกลุ่มการเมืองที่เป็นพันธมิตร ได้มีการจัดทำารัฐธรรมนูญชั่วคราวที่เรียก
               โดยย่อว่า “หลักการร่วม” ซึ่งเป็นหลักการในการปกครองช่วงการเปลี่ยนผ่าน

               สู่ระบอบสังคมนิยม ซึ่งเป็นระบอบการปกครองแบบใหม่ หลักการร่วม
               ดังกล่าวยังคงยอมให้มีธุรกิจเอกชน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมภายใต้
               ระบบสาธารณรัฐทุนแบบเดิม แต่เริ่มมีการให้ทำาควบคู่ไปกับรัฐวิสาหกิจของรัฐ

               การปราบปรามการต่อต้านการปฏิวัติ การปฏิรูปที่ดิน การต่อต้านคอร์รับชั่น
               ฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม จนในที่สุดสถานการณ์ในประเทศจีนเปลี่ยนแปลงไป

               อย่างมีนัยสำาคัญ เช่น การได้รับชัยชนะทางทหารในสงครามเกาหลี (ครั้งแรก
               รอบ 100 ปี) สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎร
               แห่งชาติได้ การปฏิรูปที่ดินจนแล้วเสร็จเกือบทั้งประเทศ ฯลฯ ทำาให้จีนคาดว่า

               มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนประเทศสู่ระบอบสังคมนิยมแบบเต็มรูปแบบ จึงได้มี
               การร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรขึ้นในปี 1954
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65