Page 74 - innovation6402
P. 74

74                                                                                    นวัตกรรมประชาธิปไตยศึกษา ปีที่ 2      เล่มที่ 1 (มกราคม - มีนาคม 2563)  75 75





        นอกจ�กนี้ยังได้อธิบ�ยไปถึงแนวท�งและกระบวนก�รในก�รรับฟัง                     คว�มคิดเห็นต่อ [ร่�ง] พระร�ชบัญญัติหลักประกันสุขภ�พแห่งช�ติ
        คว�มคิดเห็น ไม่ว่�จะเป็นกรอบกฎหม�ย ระดับของก�รเข้�ม�มีส่วนร่วม              ที่จัดทำ�ผ่�นช่องท�ง online เวทีประช�ชนทั่วไปและเวทีปรึกษ�ส�ธ�รณะ

        รูปแบบต่�ง ๆ และหลักก�ร คล้�ยกับคู่มือแนะนำ�ก�รนำ�ก�รปรึกษ�                 สะท้อนให้เห็นถึงปัญห�
        ห�รือส�ธ�รณะไปปฏิบัติ
                                                                                            ซึ่งแม้จะมีกฎหม�ยม�รองรับกระบวนก�รรับฟังคว�มคิดเห็น
                 ในหนังสือยังได้ยกกรณีศึกษ�ในต่�งประเทศม�เพื่อเปรียบเทียบ           ทว่�ก็ยังมีอุปสรรคและปัญห�ในก�รรับฟังคว�มคิดเห็นทั้งก่อน

        กับกรณีศึกษ�ของไทยเพื่อคว�มเข้�ใจที่ม�กขึ้นต่อหลักก�รทำ�ง�น                 และหลังก�รมีม�ตร� 77 โดยหนังสือได้อธิบ�ยถึงคว�มแตกต่�งกัน
        แบบน�น�ช�ติและอุปสรรคที่ประเทศไทยควรจะห�แนวท�งรับมือ                        แต่ปัญห�หลักนั้นส�ม�รถแบ่งได้เป็นสองหัวข้อ คือ

        โดยส�มประเทศที่หนังสือหยิบยกขึ้นม�คือสหภ�พยุโรป อังกฤษ และ                          1. ปัญห�ท�งโครงสร้�งและก�รปฏิบัติ ไม่ว่�จะเป็นก�รข�ด
        สหรัฐอเมริก� ซึ่งแต่ละประเทศก็มีคว�มแตกต่�งที่เห็นได้ชัด อย่�ง              ก�รว�งแผนและแนวท�งที่ชัดเจน ก�รประช�สัมพันธ์ที่ไม่ทั่วถึง
        สหภ�พยุโรปนั้นจะเน้นก�รดำ�เนินก�รปรึกษ�ห�รือและกระบวนก�ร                    ช่องท�งก�รเข้�ถึงกระบวนก�รรับฟังคว�มคิดเห็นนั้นมีคว�มซับซ้อน

        รับฟังก่อนจะมีก�รยกร่�งผ่�นขั้นตอนก�รว�งแผนที่รอบคอบ ในขณะที่               กล�ยเป็นภ�ระต่อผู้เข้�ร่วม และ
        สหรัฐฯ กับอังกฤษนั้นจะจัดทำ�ร่�งกฎหม�ยก่อนจะเข้�สู่กระบวนก�ร

        ปรึกษ�ห�รือส�ธ�รณะ                                                                  2. ปัญห�ทัศนคติและคว�มรู้สึกมีส่วนร่วมของประช�ชน
                                                                                    บ�งมองว่� หน่วยง�นของรัฐทำ�ไปเพื่อเป็นพิธี แค่ให้ครบต�มข้อบังคับ
                 ในกรณีของไทย หนังสือได้กล่�วไปถึงก�รพัฒน�ก�รมีส่วนร่วม             และคว�มคิดเห็นของประช�ชนไม่ได้มีส่วนในก�รช่วยร่�งกฎหม�ย
        ของประช�ชนตั้งแต่ก�รเปลี่ยนแปลงก�รปกครอง โดยอธิบ�ยม�ตร�                     อย่�งแท้จริง ข�ดคว�มมั่นใจ เป็นต้น

        กฎหม�ย ระเบียบสำ�นักน�ยกรัฐมนตรี โดยให้คว�มสำ�คัญยังม�ตร� 77
        ในรัฐธรรมูญปี 60 ซึ่งได้บัญญัติให้หน่วยง�นของรัฐจัดทำ�ก�รรับฟัง                     ท้�ยที่สุด ผู้เขียนได้เสนอโมเดลในก�รพัฒน�กระบวนก�รห�รือ

        คว�มคิดเห็นของประช�ชนเพื่อประกอบร่�งกฎหม�ย และยังได้นำ�                     ส�ธ�รณะและรับฟังคว�มคิดเห็นของประเทศไทยให้มีประสิทธิภ�พโดย
        เทคโนโลยีส�รสนเทศม�ใช้เป็นช่องท�งในก�รประส�นง�นและเก็บข้อมูล                นำ�สภ�พปัญห�ดังที่ได้กล่�วไปม�พิจ�รณ� โดยได้เสนอก�รดำ�เนินก�ร
        ภ�ยในเวล�ที่กำ�หนดโดยจะต้องจัดทำ�ผลสรุปพร้อมกับเปิดเผยข้อมูลให้             แบ่งออกเป็นสองระดับ คือ ระดับนโยบ�ย อ�ทิ ก�รจัดตั้งหน่วยง�นกล�ง

        ประช�ชนเข้�ถึงได้ ทั้งนี้หนังสือก็ได้ยกตัวอย่�งของก�รดำ�เนินก�รรับฟัง       เพื่อสนับสนุน ติดต�ม และตรวจสอบ และระดับปฏิบัติอย่�งก�รกำ�หนด
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79