Page 47 - kpi17733

6

3. จัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ โดยเชิญวิทยากรจากพิพิธภัณฑ์ กลายเป็นสถานที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมของอำเภอเวียงสา ของ
สถานแห่งชาติน่าน มาให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์
ทุกภาคส่วนนั้น ตลอดจนสื่อต่างๆ ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ในการเข้ามา

ในด้านการจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุ การแบ่งแยกโซนพื้นที่โดยมีการแบ่ง ถ่ายทำรายการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีหน่วยงานจำนวนมากให้การสนับสนุน
หมวดหมู่ แยกประเภทสิ่งของ เพื่อให้มีความชัดเจน เหมาะสมและ “สร้างข่วงเมืองสา” บริเวณลานวัดบุญยืนพระอารามหลวง สำหรับใช้เป็นสถานที่จัด
สามารถศึกษาเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น กิจกรรม เป็นลานวัฒนธรรม และประเพณีอื่นๆ รวมถึงเทศบาลยังมีการจัดงาน
“อนุสรณ์รอยพระบาทแห่งแรกแห่งแผ่นดินน่าน” ในทุกๆ วันที่ 3-5 ธันวาคมของ
4. จัดหาวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ของโบราณ เพื่อนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
ท้องถิ่นโดยมีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายเทศบาล สถานีวิทยุชุมชน ทุกปี ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการ
จัดกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นๆ ทุกปี ดังนั้นเทศบาลจึงขยายงานดังกล่าวเพิ่มเป็น 5 วัน
ซึ่งประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลตำบลเวียงสาได้ตระหนักถึงคุณค่ามรดก
ทางวัฒนธรรมและความภาคภูมิใจในท้องถิ่น จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการ คือ จัดระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคมของทุกปี
จัดตั้งพิพิธภัณฑ์โดยมอบสิ่งของเครื่องใช้โบราณที่มีในครัวเรือนนำมาจัด นอกจากนี้ ในปี 2558 เทศบาลตำบลเวียงสายังมีการต่อยอดโครงการ
แสดง โดยมีเทศบาลอำนวยความสะดวกในการไปรับสิ่งของเครื่องใช้
โดยการนำของนายกเทศมนตรี ที่มีนโยบายให้อาคารหลังนี้ เป็นห้องรับแขกของ
ที่ประชาชนมอบให้ถึงที่พักอาศัยกรณีที่ประชาชนไม่สามารถนำมามอบให้ อำเภอเวียงสา สามารถใช้เป็นศูนย์บริการประชาชนทุกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ ได้มาใช้

ณ สำนักงานเทศบาลตำบลเวียงสา ได้ ประโยชน์ร่วมกัน อาทิ สภาวัฒนธรรมระดับอำเภอ ระดับจังหวัด, ชมรมกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน, ชมรมทหารผ่านศึก, ชมรมข้าราชการครู,กลุ่ม-พัฒนาสตรี, กลุ่มฮักเมือง
5. จัดแบ่งโซนพื้นที่ โดยมีการแยกหมวดหมู่ ประเภทสิ่งของ และมีการจัดทำ
ทะเบียนโบราณวัตถุ ซึ่งมีการจัดทำใบงานความรู้เพื่อบ่งบอกลักษณะ เวียงสา, ชมรมจักรยาน, จัดโครงการมัคคุเทศก์ โดยเปิดรับสมัครประชาชน เยาวชน
ที่สนใจมาเป็นจิตอาสา ในการต้อนรับ การบรรยายให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว, มีการ
สิ่งของต่างๆ ให้มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย และมีการจัดทำบัญชีรายชื่อ
ประชาสัมพันธ์ที่ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังวัด สถานศึกษา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน
ผู้มอบสิ่งของให้เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบค้น
ชมรมทหารผ่านศึก ชมรมข้าราชการครู กลุ่มพัฒนาสตรี ฯลฯ จนได้รับวัตถุสิ่งของ
6. ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันทรัพย์สินที่ประชาชนนำมามอบให้จัดแสดง เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และพิพิธภัณฑ์ได้กลายเป็นแหล่งศูนย์กลางการจัดกิจกรรม

มิให้สูญหาย วันสำคัญของชาติประเพณีท้องถิ่น เช่น พิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวัน
ขึ้นปีใหม่, กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ, กิจกรรมวันสตรีสากล, ประเพณีสงกรานต์,
7. แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ประเพณีแห่เทียนจำนำพรรษา, กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ, ประเพณีตานก๋วยสลาก,
ผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมาอย่างเป็นรูปธรรมอันเกิดจากการมี
ประเพณีใส่บาตรเทียน, ประเพณีแข่งเรือวันออกพรรษา (ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบ
ส่วนร่วมในการจัดตั้งบริหารพิพิธภัณฑ์ด้วยความโปร่งใส ทำให้ประชาชนทั้งอำเภอ
ประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเวียงสา ทั้ง 16 แห่ง)

ได้ตระหนักถึงคุณค่า มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเห็นพร้องต้องกันว่า
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพิพิธภัณฑ์ของเทศบาลตำบลเวียงสาเท่านั้น แต่นับว่า
เป็นพิพิธภัณฑ์ของคนอำเภอเวียงสาทั้งอำเภอ จึงมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชม ศึกษาดูงาน
จำนวนมาก อาทิ กลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

รางวัลพระปกเกล้า’ 58 รางวัลพระปกเกล้า’ 58