Page 434 - kpi18886
P. 434
426
ผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวน
สมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภาพ้นจากสมาชิกภาพและ
ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หากพบว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น โดย
คณะรัฐมนตรีมีส่วนรู้เห็นหรือรับรู้แต่มิได้ทำการยับยั้ง ให้คณะรัฐมนตรีพ้นจาก
ตำแหน่งทั้งคณะนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิ
สมัครรับเลือกตั้ง ของรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งนั้นด้วย
3) การลงประชามติไม่วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร
มาตรา 151 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของ
จำนวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติ
ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ
มติไม่ไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มี
อยู่ของสภาผู้แทนราษฎรให้รัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งไป
กลไกดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่งโดยองค์กรอิสระ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอำนาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อ
ดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่ง
มาตรา 82 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอำนาจยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
เพื่อดำเนินการ ให้พ้นจากตำแหน่งโดยได้
ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่ามีนักการเมืองคนใดขาด
คุณสมบัติหรือมีลักษณะ ต้องห้าม ก็สามารถที่จะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อ
วินิจฉัยให้บุคคลดังกล่าวต้องพ้นไปจากตำแหน่งทางการเมืองได้ ทั้งนี้เนื่องด้วย
ความผิดฐานกระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่มีความซื่อสัตย์
สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือแม้แต่การฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของ
พรรคการเมือง (เฉพาะสมาชิกวุฒิสภา) เป็นต้น
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ยื่นเรื่องดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่ง นักการเมืองที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
มาตรฐานทางจริยธรรม
บทความที่ผานการพิจารณา