Page 435 - kpi18886
P. 435
427
มาตรา 235 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ยื่นเรื่องดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่ง นักการเมืองที่ฝ่าฝืนหรือ
ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกา
เพื่อวินิจฉัย (มาตรา 235(1)) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นเรื่องถอดถอนนักการเมืองที่มีความผิดฐานมีพฤติการณ์
ร่ำรวยผิดปกติ ยื่นเรื่องฟ้องนักการเมืองที่ความผิดฐานมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
หรือทุจริตต่อหน้าที่ (มาตรา 235(2)) โดยอำนาจดังกล่าวนี้เป็นอำนาจที่มีมาแต่
ดังเดิม กล่าวคือหากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนใดมีพฤติการณ์ร่ำรวย
ผิดปกติทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจใช้หน้าที่และอำนาจ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือ
กฎหมายให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้ไต่สวน
และให้ความเห็น ซึ่งถ้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติมีมติด้วยคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
ให้ส่งสำนวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและถ้ามีความผิดจริง จะถูกตัด
สิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป รวมถึงอาจจะตัดสิทธิเลือกตั้งสูงสุดไม่เกิน 10 ปี
หรือไม่ก็ได้
ในประเด็นนี้การดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่งจะไม่สามารถนำไปสู่
การปฏิบัติได้ยากมาก
มาตรการที่ 3 รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐควบคุมไม่ให้เกิดนโยบาย
ประชานิยม
กำหนดหน้าที่ของรัฐในการรักษาวินัยการเงินการคลัง
มาตรา 62 รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ฐานะ
ทางการเงินการคลัง ของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนตามกฎหมาย
ว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ และจัดระบบภาษี ให้เกิดความเป็นธรรมแก่
สังคม
กำหนดให้องค์กรอิสระเป็นผู้กำกับเรื่องวินัยการเงินการคลัง
บทความที่ผานการพิจารณา