Page 113 - kpi19900
P. 113
โครงการศึกษาวิจัยวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
นำยรุ่งสุริยำ เชียงชีระ
นำยก อบต.ช่วงเปำ จ.เชียงใหม่
เรื่อง 180 วัน ถ้าไม่ดูกฎหมาย ดูถึงวิธีปฏิบัติ นายกหนึ่งท่านมีระยะเวลาท างานจริงแค่ 4 ปี ถ้าตัด
หน้าตัดหลังออกก็เหลือแค่ 2 ปี คือตัดหน้าตัดหลังหมายถึงว่าถ้าเป็นนายกคนเดิมท่านก็ท าได้ทันที ถ้าเปลี่ยน
นายกคนใหม่เข้ามาท าตามข้อบัญญัติเดิมที่ท าไว้ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงข้อบัญญัติต้องใช้ระยะเวลา 1 ปี ถ้าเสีย 1
ปีแรกแล้ว กรณีเป็นนายกใหม่ และเสียอีก 1 ปี คือต้องไประวังเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง กลายเป็นว่าระบบ
ท้องถิ่นจะหยุดชะงักไป ลดระยะเวลาลงมาได้หรือไม่ เอาแค่ 90 วันก็คงเพียงพอ เรื่อง 180 วัน มาตรฐานของ
ผู้ออกแบบ คิดว่าเป็นการเตรียมความพร้อมเรื่องการเลือกตั้งมากกว่า ถ้ามองเรื่องการพัฒนา เหลือ
งบประมาณอีก 6 เดือนหลัง ซึ่งเป็นงบประมาณมหาศาล ก็จะหยุดนิ่งหมด เพราะเราตั้งใจจะพัฒนาท้องถิ่น
ใครจะเป็นนายกคนต่อไปแล้วแต่เขา แต่เราเป็นเราก็ต้องเป็นให้ดี เนื่องจากข้อกฎหมายครอบคลุมทั้งระบบ
เพราะฉะนั้นเห็นว่า 180 วันยาวนานเกินไป ให้การพัฒนาต่อเนื่องควรลดเหลือ 90 วัน
กรณีที่การเมืองรุนแรง จะจับตั้งแต่ต้น ตั้งแต่บริหารวันแรก นายกหลายคนโดนมาหมด แล้วจับจริงคือ
ปีสุดท้าย งบประมาณทั้งหมดที่นายกท้องถิ่นต้องท าก็จะหยุดนิ่ง ผลกระทบคือประชาชน มีผลต่อปลัดในการ
ท าโครงการ/กิจกรรมต่อ ผลสุดท้ายคือ การบริหารงบประมาณปีสุดท้ายจะยากมาก
ผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ ดร. วสันต์ เหลืองประภัสร์
ผู้อ ำนวยกำรสถำบันสัญญำ ธรรมศักดิ์ เพื่อประชำธิปไตย
และอำจำรย์ประจ ำคณะรัฐศำสตร์ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์
ที่ท่านพูดเรื่อง 90 วัน กับ 180 วัน ความจริงแล้วการอนุมัติโครงการก าหนดไว้ที่ 90 วัน อยู่แล้ว แต่
ว่า 180 วันที่ก าหนดคือ ก าหนดให้ท่านสามารถเริ่มหาเสียงได้ตั้งแต่ 180 วันก่อนครบวาระ หมายความว่า 6
เดือนก่อนที่ท่านจะครบวาระ ท่านสามารถเปิดให้ทั้งตัวท่านเองและผู้สมัครที่สนใจมาลงสามารถหาเสียงได้
เพียงแต่ว่าเริ่มมีการด าเนินการหาเสียงแล้วก็ต้องมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อจะต้องชี้แจงกับ กกต. ใน 180 วันนั้น
แต่ 180 วันไม่เกี่ยวกับการอนุมัติโครงการซึ่งอยู่ที่ 90 วัน
นำยรุ่งสุริยำ เชียงชีระ
นำยก อบต.ช่วงเปำ จ.เชียงใหม่
การเป็นผู้บริหารท้องถิ่น มีกิจกรรมที่ท าทุกวัน แต่ผู้สมัครแข่งขันคนหนึ่งมีกิจกรรมทั้งวัน เขาไม่ได้เก็บ
แต่เราเก็บ เพราะฉะนั้นเจตนารมณ์ของผู้สมัครคนต่อไป ยกตัวอย่างถ้าจะเป็นนายกต าบล ก. ก็ต้องแสดง
เจตนารมณ์ให้ กกต. ด้วย อีกฝั่งหนึ่งก็ท าบุญ ออกหน้าออกตา แต่เราท าบุญไม่ได้ เป็นการเปรียบเทียบอย่าคิด
ว่าใครจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะชุมชนได้รับการด าเนินโครงการตามข้อบัญญัติ แต่การหาเสียงเป็น
มวลชน ฉะนั้นต้องจัดสรรก่อน
- 101 -