Page 58 - kpi20686
P. 58

ห น้ า  | 48


                                  ยุทธศาสตร์ที่ 4 “พัฒนาระบบป้องกันการทุจริตเชิงรุก”
                                  มุ่งเน้นการพัฒนากลไกและกระบวนงานด้านการป้องกันการทุจริตของประเทศไทยให้มี
                       ความเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสการทุจริตหรือท าให้การทุจริตเกิดยากขึ้น
                       หรือไม่เกิดขึ้น โดยอาศัย ทั้งการก าหนดกลไกด้านกฎหมาย กลไกทางการบริหาร และกลไกอื่น ๆ

                       ตลอดจนเสริมสร้างการปฏิบัติงานของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีธรรมาภิบาลมากยิ่งขึ้น ซึ่ง
                       การพัฒนากลไกและกระบวนการท างานนั้นต้องเท่าทันต่อสถานการณ์และให้สามารถป้องกันทุจริตให้
                       มีประสิทธิภาพ
                                  ยุทธศาสตร์ที่ 5 “ปฏิรูปกลไกและกระบวนการการปราบปรามการทุจริต”

                                  มุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนากลไกและกระบวนการต่าง ๆ ของการปราบปรามการ
                       ทุจริตทั้งระบบ ให้สามารถด าเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในการปฏิรูปกลไกและกระบวนการจะให้
                       ความส าคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการตราเป็นกฎหมาย (Legislation) การบังคับใช้กฎหมาย
                       (Enforcement) การตัดสินคดีและลงโทษผู้กระท าผิด (Judiciary) การบูรณาการร่วมกันของ

                       หน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการปราบปรามการทุจริต และจะมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
                       สื่อสารที่ทันสมัยในการพัฒนาเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งยุทธศาสตร์นี้จะท าให้การ
                       ปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

                                  ยุทธศาสตร์ที่ 6 “ยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions
                       Index: CPI) ของประเทศไทย”
                                  มุ่งยกระดับมาตรฐานด้านความโปร่งใสและการจัดการการยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การ
                       ทุจริตของประเทศไทย โดยการศึกษาวิเคราะห์ประเด็นการประเมินและวิธีการส ารวจตามแต่ละ
                       แหล่งข้อมูล และเร่งรัด ก ากับ ติดตาม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหรือปรับปรุงการท างาน รวมไป

                       ถึงการบูรณาการการท างานร่วมกันระหว่างภาครัฐ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ภาคเอกชน
                       และต่างประเทศ
                                  4.6 การบริหารจัดการเพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม

                       การทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ไปสู่การปฏิบัติ
                                  ความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยงเพื่อสู่ความส าเร็จเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติว่า
                       ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) เพื่อให้การด าเนินการตาม
                       แผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564)

                       ประสบผลส าเร็จตามเป้าหมาย จ าเป็นต้องมีกลไกในการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) โดย
                       การวิเคราะห์ความเสี่ยง ภาวะคุกคาม ผลกระทบและโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Risk Impact & Risk
                       Likelihood) เพื่อหาแนวทางจัดการความเสี่ยงหรือควบคุมความเสี่ยงนั้น ดังนี้
                                    4.6.1 ความเสี่ยงจากความเปลี่ยนแปลงในระดับโลกและภูมิภาคที่มีแนวโน้มไปสู่

                       หลายขั้วอ านาจ ส่งผลให้รัฐสามารถอ้างเหตุผลความสัมพันธ์หรืออื่น ๆ ที่อาจจะไม่ด าเนินการตาม
                       มาตรการเพื่อป้องกันทุจริต นอกจากนี้ การเปิดประชาคมอาเซียนท าให้มีความเสี่ยงในการขยายตัว
                       ของอาชญากรรมข้ามชาติ และการให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่จะขยายเป็นวงกว้าง
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63