Page 59 - kpi20686
P. 59
ห น้ า | 49
4.6.2 ความเสี่ยงจากปัญหาความเหลื่อมล้ าและความขัดแย้งทางความคิดในสังคม
ความแตกต่างของความคิดทางการเมือง ผลักดันให้เกิดความแตกแยกทางความคิดรุนแรงมากขึ้น
ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การยอมรับการทุจริตที่ตนเอง
ได้รับประโยชน์ และการเพิกเฉยของประชาชนในความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาการทุจริต
4.6.3 ความเสี่ยงจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและวิวัฒนาการของการ
ทุจริต จากการที่มีการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมอย่างเร็ว และเครือข่ายสังคมออนไลน์
สามารถถูกน ามาใช้ในการบิดเบือนข้อเท็จจริง ท าให้การป้องกันการทุจริตยากขึ้น รวมถึงวิวัฒนาการ
ของการทุจริตมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
4.6.4 ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk) และความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ
(Operational Risk) เป็นความเสี่ยง ในการน ายุทธศาสตร์ไปปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม และไม่เข้าใจ
อย่างถ่องแท้ หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ให้ความร่วมมือและบูรณาการอย่างจริงจัง ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่าย
บริหารละเลยเจตจ านงทางการเมืองในการต้านทุจริต การถูกแทรกแซง โดยผู้มีอิทธิพล การไม่
สามารถปรับเปลี่ยนการด าเนินการให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ได้ทันท่วงที รวมทั้งความเสี่ยง ในเรื่อง
ของงบประมาณที่ได้รับเพื่อการต่อต้านการทุจริตไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหา
4.7 แนวทางจัดการความเสี่ยง
เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยง (Risk Impact & Risk
Likelihood) ดังกล่าวข้างต้น ส านักงาน ป.ป.ช. ได้ก าหนดแนวทางจัดการความเสี่ยงหรือควบคุม
ความเสี่ยงให้ครอบคลุมทุกมิติทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ดังนี้
4.7.1 ก าหนดกลไกการบูรณาการทั้งฝ่ายบริหาร องค์กรอิสระ องค์กรเอกชน ภาค
ประชาสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับโลกและ
ภูมิภาคได้อย่างเท่าทัน และเป็นช่องทาง สร้างความเชื่อมั่นในเวทีโลก
4.7.2 สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม และสร้างความตระหนักรู้ในการเข้ามามีส่วนร่วม
ในการต่อต้านการทุจริต โดยใช้การสื่อสารที่มีนวัตกรรมของเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
4.7.3 เสริมพลังการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน ในการติดตาม ตรวจสอบ ควบคุมการ
ใช้ดุลยพินิจของผู้มีอ านาจตัดสินใจในระดับต่าง ๆ โดยประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือธรรม
เนียมปฏิบัติของทางราชการ (State Practice) หรือใช้นวัตกรรมอื่นๆ เพื่อจ ากัดความเสี่ยงการทุจริต
ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
4.7.4 มีการร่วมตัดสินใจ ด าเนินการในเชิงรุกอย่างจริงจัง และร่วมประเมินผลการ
ด าเนินการ มุ่งแก้ไขปัญหา เรื่องการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน รวมทั้งเป็นเวที
ในการด าเนินการตามเจตจ านงทางการเมือง ในการต่อต้านการทุจริตของรัฐบาล และเปลี่ยนแปลง
รูปแบบการจัดสรรงบประมาณจากรายโครงการเป็นการจัดสรรแบบสัดส่วน เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น
ในการจัดการตามสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งปรับรูปแบบแผนงานโครงการที่เชื่อมหลายยุทธศาสตร์
บูรณาการการท างานภายในองค์กรและระหว่างองค์กร รวมทั้งมีการก ากับ ติดตาม ประเมิน และวิจัย
อย่างต่อเนื่อง