Page 390 - kpiebook65024
P. 390
389
2) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่สภาผู้แทนฯ และ
3) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ สมาชิกวุฒิสภา รวมกัน ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ
จ�านวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสองสภา เมื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ต่อรัฐสภาแล้ว รัฐสภาพิจารณา 3 วาระ ได้แก่ วาระแรก ขั้นรับหลักการ ต้องใช้เสียง
ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่สองสภา วาระสอง ขั้นพิจารณาเรียงล�าดับ
มาตรา ให้ใช้เสียงข้างมากโดยประมาณ และให้รอไว้ 15 วัน และ วาระสาม ขั้นสุดท้าย
ต้องใช้เสียงมากกว่ากว่าครึ่งหนึ่งของสองสภา จากนั้น ทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย
และประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ก�าหนดว่าห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็น
การเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หรือเปลี่ยนรูปแบบรัฐ หากพิจารณารัฐธรรมนูญ ปี 2540 จะเห็นว่ามีการก�าหนดองค์กร
ผู้ริเริ่มญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไว้เพียง 2 องค์กรได้แก่ ฝ่ายบริหารโดยรัฐบาล
และฝ่ายนิติบัญญัติโดยรัฐสภาและกระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้
จะเห็นได้ว่ามีกระบวนการในการแก้ไขที่ง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญ
ฉบับพุทธศักราช 2550 และฉบับพุทธศักราช 2560 อย่างไรก็ตามในรัฐธรรมนูญ
2540 นี้ไม่พบหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนแต่อย่างใด อ�านาจในการแก้ไขเพิ่มเติม
รัฐธรรมนูญยังคงเป็นอ�านาจของฝ่ายนิติบัญญัติ
(5) เมื่อการพิจารณาวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน เมื่อพ้นก�าหนดนี้แล้วให้รัฐสภา
พิจารณาในวาระที่สามต่อไป
(6) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย
และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจ�านวน
สมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
(7) เมื่อการลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวแล้ว ให้นาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม
ถวาย และให้นาบทบัญญัติมาตรา 93 และมาตรา 94 มาใช้บังคับโดยอนุโลม