Page 49 - kpi12626
P. 49
3 การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น:
คู่มือสำหรับนักบริหารงานท้องถิ่นในยุคใหม่
ในระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) โดยพิจารณาจากสัดส่วนระหว่างสินทรัพย์
หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน (ตัวชี้วัดที่ 1) พิจารณาจากสัดส่วนของเงินสด
(และสิ่งที่ใกล้เคียงเงิน) เทียบกับขนาดของหนี้สินหมุนเวียน (ตัวชี้วัดที่ 2)
และพิจารณาจากขนาดของหนี้สินหมุนเวียนต่อรายรับรวมของเทศบาล
(ตัวชี้วัดที่ 3) ทั้งนี้ตัวชี้วัดที่ 2 เป็นการประเมินตามแนวทางการบริหาร
การเงินแบบอนุรักษ์นิยมที่ว่าถ้าหากท้องถิ่นจะต้องชำระหนี้สินระยะสั้นต่างๆ
ด้วยเงินสดและสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง (สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพ
เป็นเงินสดได้ทันที) แล้วนั้น จะมีขีดความสามารถในการชำระหนี้ได้มากน้อย
เพียงใด ส่วนตัวชี้วัดที่ 4 เป็นการประเมินถึงขีดความสามารถของท้องถิ่น
ในการบริหารจัดเก็บภาษีอากรเพื่อให้มีเงินรายได้สำหรับนำมาใช้จ่ายใน
กิจการต่างๆ หากท้องถิ่นมีสัดส่วนของลูกหนี้ภาษีในระดับสูงย่อม
หมายความว่าเงินสดที่จะนำมาใช้ในการปฏิบัติงานมีสัดส่วนที่น้อยลงและ
อาจทำให้การบริหารสภาพคล่องติดขัดได้ และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็น
ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหาร
จัดเก็บภาษีและเร่งรัดติดตามทวงถามลูกหนี้ภาษีท้องถิ่นต่อไป
3.2 วิธีการคำนวณและการวิเคราะห์ผล
วิธีการคำนวณดัชนีชี้วัดสภาพคล่องทางการเงินทั้ง 4 ประการ พร้อม
ค่าอ้างอิงจากเทศบาลกลุ่มตัวอย่างในปีงบประมาณ 2552 แสดงดังตารางที่
3-1 ต่อไปนี้ ทั้งนี้ค่าอ้างอิงของเทศบาลกลุ่มตัวอย่างแสดงเป็นช่วงใน 4
ลักษณะได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (mean) และค่าลำดับเปอร์เซ็นไทล์
(percentile) ที่ลำดับร้อยละ 25, 50, และ 75 ตามลำดับ ผู้บริหารขององค์กร
6
ปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเลือกใช้ค่าอ้างอิงที่ลำดับต่างๆ สำหรับการ
เปรียบเทียบกับสภาพคล่องทางการเงินขององค์กรตนเองได้ตามสมควร
6 ค่าเปอร์เซ็นไทล์เป็นค่าที่แบ่งข้อมูลออกเป็น 100 ส่วนเท่าๆ กันเมื่อข้อมูลถูกเรียงจาก
น้อยไปหามาก ในกรณีของค่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 หมายความว่าหากมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น
25 ส่วนใน 100 ส่วน (หรือ 1 ใน 4) จะมีข้อมูลจำนวนร้อยละ 25 ที่มีค่าต่ำกว่าค่าที่เปอร์เซ็น
ไทล์ที่ 25 นี้ ดังนี้เป็นต้น