Page 356 - kpi15476
P. 356
การวางรากฐานในการพัฒนาสถาบัน
ทางเศรษฐกิจ และสังคมของชาติ
นางวิสา เบ็ญจะมโน*
การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม จำเป็นต้องพัฒนาควบคู่กันไปเสมอ
เสมือนดังเกลียวเชือกที่ร้อยพันเข้าไว้ด้วยกัน เกลียวเชือกที่ร้อยพันกัน ย่อม
ทำให้เชือกเส้นนั้นมีพลัง เช่นเดียวกันกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินการ
ควบคู่กับการพัฒนาสังคม จะพัฒนาอย่างแยกส่วนกันไม่ได้ ประการสำคัญ
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมย่อมต้องคำนึงถึง “คนเป็นศูนย์กลาง” ดังที่
พระมหากษัตริย์ไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทรงได้เป็นต้นแบบในการพัฒนา
เศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคมเสมอมา จากการศึกษาค้นคว้าของผู้เขียน
พบว่าในอดีตที่ผ่านมา แม้ระบอบการปกครองจะเป็นระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งเป็นระบอบที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจ
แต่พระมหากษัตริย์ไทยได้ทรงเลือกใช้พระราชอำนาจบนหลักการ “ธรรมราชา”
โดยทรงคำนึงถึง “ประชาชน” ก่อนเสมอ ดังข้อมูลที่ผู้เขียนจะนำเสนอ ดังต่อ
ไปนี้
1.“ธรรมราชา : เสียงของประชาชนคือเสียงสวรรค์”
แนวทางการพัฒนาสถาบันทางเศรษฐกิจและสังคมที่พระมหากษัตริย์ไทย
ทรงวางรากฐานและใช้หลักการ “ธรรมราชา” จะทรงคำนึงถึง “ประชาชน” เสมอ
ในที่นี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างพอสังเขป อาทิ
๏ สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อประมาณปี พ.ศ.1835 จาก
ศิลาจารึก แสดงให้เห็นเบื้องต้นถึงความเป็นธรรมราชาในการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคม เช่น
“เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ ลูท่างเพื่อนจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย ใคร
จักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า ใครจักค้าเงือนค้าทอง ค้า”
“ในปากปตูมีกดึงอันณึ่งแขวนไว้หั้น ไพร่ฝ้าหน้าปก กลางบ้านกลางเมือง
มีถ้อยมีความ เจ็บท้องข้องใจ มันจักกล่าวถึงเจ้าถึงขุนบ่ไร้ ไปลั่นกดึง
อันท่านแขวนไว้ พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองได้ยิน เรียกเมื่อถาม สวน
ความแก่มันด้วยซื่อ ไพร่ในเมืองสุโขทัยนี้จึ่งชม”
* กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ