Page 112 - kpi18886
P. 112
104
มีการผูกการพัฒนาการทางการเมือง การพัฒนาประชาธิปไตยเข้ากับการให้ความ
ช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ หลังจากช่วงความยุ่งยากที่มีรัฐบาลชั่วคราวอยู่หลายชุด
การเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกก็คือใน ค.ศ. 1976
เดือนมิถุนายน ขณะที่ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างโปรตุเกสกับ EU
ก็เปลี่ยนแปลงไปเพราะการเข้าเป็นสมาชิกของ EU มีการให้ความสำคัญทาง
การเมือง มีการผนึกการพัฒนาทางการเมืองกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ แม้ไม่มี
ธรรมเนียมด้านประชาธิปไตย แต่การได้รับอิทธิพลมากจากภายนอกทำให้ต้องทำ
ตามวัตถุประสงค์ของสหภาพยุโรป
จาก ค.ศ. 1974 เป็นต้นมา การพัฒนาประชาธิปไตยเป็นเป้าหมายหลัก
ของโปรตุเกส ในปี ค.ศ. 1978-1985 มีการเจรจาอย่างเข้มข้น ประเทศมีการ
เลือกตั้ง มีการพยายามบรรลุเป้าหมายของการเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU และ
การเข้าร่วมเป็นสมาชิก EU ก็เป็นรางวัลของความพยายามในการพัฒนา
ประชาธิปไตยในโปรตุเกส และยังทำให้ประชาธิปไตยเป็นพื้นฐานของการพัฒนา
ในทุกด้านต่อไป
ใน ค.ศ. 2004 สหภาพยุโรปก็ได้ขยายรวมสาธารณเชคโกสโลวาเกีย และ
ประเทศอื่นๆ เข้ามา ขณะที่เงื่อนไขของการพัฒนาประชาธิปไตยและการพัฒนา
เศรษฐกิจก็ยังดำรงอยู่ กรณีตัวอย่างของโปรตุเกสจะเห็นว่าองค์กรในระดับ
ภูมิภาคอย่างสหภาพยุโรปและกรรมการสหภาพยุโรปสามารถที่จะมีอิทธิพลที่จะ
พัฒนาประชาธิปไตยในประเทศอย่างโปรตุเกส
ใน ค.ศ. 1977 นายกรัฐมนตรีมาริโอ โซเรส (Mário Soares) ได้กล่าว
ประโยคที่สวยงามมากว่า “ประชาธิปไตยเป็นดอกไม้ที่เปราะบาง” 30 ปี
ผ่านมาถึงปัจจุบันโปรตุเกสมีระบอบประชาธิปไตยที่ลงรากได้อย่างมั่นคง และ
มีการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมในระดับชาติ ระดับเทศบาล และระดับเมือง
สภาพความเป็นอยู่ได้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษา
ระดับการศึกษาของประชากรก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศก็ได้มีการรื้อฟื้นทำนุบำรุง
โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล รวมทั้งผลิตผล
ประโยชน์สวัสดิการ ผลผลิตทางสังคม เช่นเงินบำนาญ การลาคลอด เบี้ยทดแทน
การว่างงาน ทางด้านเศรษฐกิจก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาเช่นกันจากการสนับสนุน
การอภิปรายรวมระหวางผูแทนจากตางประเทศ