Page 268 - kpi18886

260

เจตนารมณ์ในการป้องกันปราบปรามการทุจริตตามแนวทางที่บัญญัติ

ไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย)

9. เรื่องการทุจริตของนักการเมืองไป ป.ป.ช. ไปศาล ป่วยการไม่ต้องใช้

วิธีการถอดถอนแบบเดิมๆ เพราะที่ผ่านมาถอดก็ไม่ได้ ถอนก็ไม่ออก

10. กำหนดให้รัฐพัฒนาระบบการบริหารราชการทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค
และท้องถิ่นต้องเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

11. กำหนดให้มีกฎหมายบริหารงานบุคคลภาครัฐซึ่งต้องมีมาตรการ
ป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือก้าวก่ายแทรกแซงการทำ
หน้าที่ การแต่งตั้ง หรือการพิจารณาความดีความชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ

12. ให้ตรากฎหมายเท่าที่จำเป็นและลดระบบอนุญาตและระบบ
คณะกรรมการลง การใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐต้องมีหลักเกณฑ์ที่
แน่ชัด

13. ส่งเสริมประชาชนและชุมชนในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
การต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ การตัดสินใจทางการเมืองหรือ
การใดๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อประชาชนหรือชุมชน

14. ให้มีการส่งสำนวนต่อกันได้ ระหว่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกับ
ป.ป.ช.เป็นการเปลี่ยนแปลงให้มีการบูรณาการการทำงานของหน่วย
ตรวจสอบทั้งหลายให้มีประสิทธิภาพ และทำงานได้ผลเร็วขึ้น

15. ป้องกันการใช้เงินแบบอีลุ่ยฉุยแฉก ใช้เงินนอกงบประมากู้หนี้ ซุกหนี้
ควักเงินจากแบงค์รัฐ หรือรัฐวิสาหกิจมาใช้ตามใจ โดยไม่คำนึงถึงวินัย
การเงินการคลังของชาติ จึงให้มีกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง

ของรัฐ เพื่อเป็นกรอบการใช้เงินของรัฐ

16. ถ้าพบว่ามีการทำโครงการที่สร้างความเสียหายแก่การเงินการคลังของ
รัฐ ให้ผู้ว่า สตง. ส่งเรื่องให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.)

ถ้า คตง.เห็นด้วยให้ปรึกษากับ กกต. และ ป.ป.ช. ถ้าสามหน่วยนี้
เห็นตรงกันให้ส่งหนังสือทักท้วงไปยังสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ครม.

การประชุมกลุมยอยที่ 3