Page 273 - kpi18886

265

ชีวิต ซึ่งการตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปีนั้นถูกต้องหรือไม่เพราะสิทธิเลือกตั้ง

เป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมืองทุกคน มาตรา 144 เช่นกัน ถ้า สส. สว.หรือ ครม.
ที่เป็นกรรมาธิการบิดเบือนงบประมาณในกระบวนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ
จัดทำงบประมาณของแผ่นดิน ถ้าผิดจริงตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต

ชี้ให้เห็นว่าเป็นมาตรการแรงที่ไม่เคยมีมาก่อน และยังมีหมวดการขัดกันแห่ง
ผลประโยชน์ หมวด 9 มาตรา 184 ถึง 187 ที่กระบวนการจัดทำพระราชบัญญัติ
ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวมซึ่งยังค้างอยู่ในสภา

นิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งขอให้อย่าตกไปเหมือนกับกฎหมายต่อต้านทุจริตใน
ภาคเอกชนเพราะกฎหมายนี้จะดีมากเพราะทำให้มาตรการสกัดกั้นเรื่องการขัดกัน
แห่งผลประโยชน์หรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนวาระซ่อนเร้นทรงพลังมากขึ้น

เป็นกระบวนการปราบโกงได้

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม

การทุจริตที่ได้ปรับปรุงแก้ไขใหม่ นำมาตรการที่สกัดกั้นเรื่องการโกงทั้งของ
การเมืองและข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งระบบ รวมทั้งบุคลากรใน
องค์กรอิสระ ของศาล ของทุกฝ่าย นอกจากนั้นในปี พ.ศ. 2559 ได้มีการแก้ไข

เพิ่มเติมกฎหมาย ปปท. คือ มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต ให้ทรงพลังและทำงานได้ผลดีขึ้น แต่หากมีการทำให้เกิด
พลังและเคลื่อนไหวได้อีก คือ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีทุจริตและประพฤติ

มิชอบ พ.ศ. 2559 พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559
ซึ่งจะทำกระบวนการของ ปปท. ไปได้สุดสาย ปัญหาขาดอายุความจะหมดไป
ปัญหาเรื่องตัวหนีแต่ยื่นอุทธรณ์ฎีกาจะหมดไป ปัญหาเรื่องพิจารณาคดีลับหลัง

ไม่ได้จะหมดไป แต่การฟ้องคดีอาญาลับหลังพวกโกงจะทำได้เฉพาะในศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น ศาลอาญาคดีทุจริตที่ยัง
ฟ้องลับหลังไม่ได้ซึ่งยังคงลักลั่นอยู่ ควรให้เหมือนกันเสมอกันเพราะเมื่อมี

คดีโกงชาติโกงแผ่นดินแล้วหนีคดีไป ทำไมจะฟ้องไม่ได้ซึ่งไม่ยุติธรรมสำหรับชาติ
จึงน่าจะเดินตามแนวทางของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งผ่าน

กระบวนการนี้ มีแนวโน้มจะดี แต่มีเงื่อนไขที่ไม่นำไปสู่ความสำเร็จ ด้วยเหตุผล
ดังนี้

การประชุมกลุมยอยที่ 3