Page 313 - kpi18886
P. 313
305
ในรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลแถลงนโยบายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ในงบประมาณประจำปีต้องแถลงว่าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่อย่างไร
ใน พรบ. ยุทธศาสตร์ชาติ กำหนดให้มีการตรวจสอบรัฐและหน่วยงานรัฐว่า
ทำตามยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ และ ให้มีการตรวจสอบความสอดคล้องกับ
ยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ดังนั้น การเลือกตั้งไม่มีผลทางนโยบาย เพราะ
นโยบายที่แถลงกับรัฐสภาต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ เมื่อ สว. ชุดแรกที่มาจาก
การแต่งตั้งมีสิทธิในการตรวจสอบว่าเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ ดังนั้น
สว. ที่มาจากการเลือกตั้งต้องขึ้นกับ สว. ที่มาจากการแต่งตั้ง และเนื่องจาก
ในตัวยุทธศาสตร์ชาติที่ลักษณะเหมือนร่างแผนแม่บทขนาดใหญ่มีช่องว่างใน
การตีความ จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อล้มรัฐบาลได้ แต่ถ้า
ยุทธศาสตร์ชาติล้มเหลวแล้วคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติต้องรับผิดต่อใคร
ในประเด็นการมีส่วนร่วมเพื่อรวมพลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาตินั้น
การรับฟังความคิดเห็นให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ทำได้อย่างมีคุณค่าเพียงใด
และเมื่อพิจารณาคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ที่องค์ประกอบของ
คณะกรรมการฯ มีภูมิหลังและองค์ประกอบที่เน้นด้านการตลาดและการเงิน แต่
ขาดภูมิหลังด้านวิศวกร หรือตัวแทนจากภาคที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น ตัวแทน
จากด้านแรงงาน เกษตรกร ธุรกิจรายเล็ก ธุรกิจชุมชน ดังนั้นทั้งองค์ประกอบของ
คณะกรรมการและองค์ประกอบของกระบวนการร่าง ยังคงเกิดคำถามว่าได้รวม
ทุกภาคส่วนเข้ามา (inclusive) จริงหรือไม่ และถ้าไม่มีเสียงของตัวแทนจาก
ทุกภาคส่วนจริงจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความเหลื่อมล้ำได้รับการแก้ไข
สรุป ยุทธศาสตร์ชาติฉบับของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่มีอยู่ รวมทั้งองค์ประกอบนั้น เป็นแผนของกลุ่มชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ (narrow
elite group) ประกอบด้วยทุนขนาดใหญ่และบุคคลในเครื่องแบบเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น สิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเองนั้น นโยบายหลัก (major
policy) อื่นๆ ไม่อาจทำได้เพราะถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว และการ
มี สว.เป็นผู้คอยตรวจสอบ ซึ่งขึ้นกับ สว. ในการตีความนโยบายหลักนั้นว่าเข้ากับ
ยุทธศาสตร์หรือไม่ หากไม่เห็นด้วยก็จะถูกถอดถอนทางการเมืองผ่านทาง
ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะกล้ากำหนดหรือไม่
สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตัดสิน
การประชุมกลุมยอยที่ 5