Page 311 - kpi18886
P. 311
303
แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของไทยที่ติดอันดับโลกอยู่ในปัจจุบันนี้ได้ เสถียรภาพ
ทางสังคมและการเมืองจะตามมา เพราะความเหลื่อมล้ำทำให้เกิดอาชญากรรม
ทางสังคม
จากทฤษฎี และประสบการณ์จากประเทศในเอเชียตะวันออกที่ประสบ
ความสำเร็จจนเป็นประเทศที่ร่ำรวยนั้น ต้องมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
(growth) ก่อนแล้วจึงแบ่งปันได้ ประเทศไทยยังติดกับดักรายได้ปานกลาง (MIT)
ซึ่งหากต้องการหลุดพ้นจากระดับรายได้ปานกลางนั้นต้องมีการเติบโตทาง
เศรษฐกิจก่อน และการจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้นั้นต้องมีนวัตกรรม
(innovation) และนวัตกรรมที่ปล่อยให้เกิดขึ้นโดยตลาดอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ
เหตุเพราะตลาดมันไม่มีแรงจูงใจหรือสิ่งจูงใจ (incentive) ในตัวเองที่จะผลิต
นวัตกรรม ในแง่นี้ทางเศรษฐศาสตร์เห็นว่าอัตราการเกิดนวัตกรรมที่ต่ำทั้งใน
ประเทศไทยหรือประเทศโลกที่สามนั้นไม่ได้เกิดจากด้านอุปทาน (supplies side)
เช่น ขาดแคลนวิศวกร ขาดแคลนห้อง Lab มากเท่ากับ ด้านอุปสงค์ (demand
side) ซึ่งสำคัญกว่าคือผู้ประกอบการไม่ประสงค์จะผลิตนวัตกรรม เหตุผลในทาง
เศรษฐศาสตร์คือแรงจูงใจไม่พอ นวัตกรรมมีต้นทุนในการสร้างและพัฒนา และ
ยังถูกก๊อปปี้ได้อีก ในที่นี้นวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นครั้งแรกของโลก เช่น
การสร้างหุ่นยนต์ กล่าวคือเราไม่จำเป็นต้องคิดหุ่นยนต์เป็นคนแรกเพียงเอา
เทคนิคการสร้างอุตสาหกรรมการสร้างหุ่นยนต์มาใช้ ก็เป็นนวัตกรรมสำหรับ
ประเทศไทยแล้ว เช่นนี้ยังมีต้นทุนในการปรับใช้และการเรียนรู้อีก ดังนั้น
ในกระบวนการที่ขาดแรงจูงใจเช่นนี้หากปล่อยให้ตลาดทำเองคงต้องใช้เวลาอีก
50 ปี และจะส่งผลคือการเกิดสังคมแก่ก่อนรวย ดังนั้น สิ่งที่รัฐจะให้ความ
ช่วยเหลือและทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของนวัตกรรมเร็วกว่าที่ตลาดจะดำเนินไปด้วย
ตัวเอง คือ การมีนโยบายอุตสาหกรรมที่ยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้มี
ประสิทธิภาพและแข่งขันได้ นโยบายต้องสร้างและเร่งอัตราการพัฒนานวัตกรรม
เพราะข้อจำกัดของการพัฒนานวัตกรรมคือต้นทุนที่นักลงทุนแบกรับแล้วไม่คุ้ม
รัฐจึงต้องสนับสนุนการลงทุน (subsidies) ให้เอกชนไปสร้างนวัตกรรมที่มี
ประโยชน์กับประเทศไทย ประเด็นคือคำถามว่าหากสนับสนุนเช่นนั้นแล้ว เอกชน
ที่ได้เงินจากรัฐหรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้สร้างนวัตกรรมหรือไม่ นวัตกรรมที่
ประเทศไทยควรจะทำในท่ามกลางนวัตกรรมที่เป็นไปได้ในโลกนี้ควรอยู่ตรงไหน
ดังนั้น กระบวนการของนโยบายอุตสาหกรรม (Industrial policy - IP) นั้นเป็น
การประชุมกลุมยอยที่ 5