Page 98 - kpi18886
P. 98
90
ออกจากพรรคก็ขาดสถานะการเป็นสมาชิก ฉบับที่ 2 รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
มี กกต. เกิดขึ้น เป็นองค์กรมาตรวจสอบมาดูการเลือกตั้งเพราะจะให้นักการเมือง
ดูเองไม่ได้ ก่อนหน้านั้นคนคุมการเลือกตั้งคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งหากไม่วางตัวดีๆ จะถือว่าได้ประโยชน์จากการดูแลการเลือกตั้งและพรรค
ของท่านอาจจะได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีคนกลาง จึงมี กกต. ขึ้น
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เคร่งครัดมากเรื่องการเลือกตั้ง จนล้อกันว่าการเลือกตั้ง
ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจสอบ ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 นี้นับคะแนน
เสร็จยังไม่รู้จะได้เป็น สส. หรือไม่ กกต. จะรับรองหรือไม่ กกต.ต้องใช้เวลา
ในการรับรอง และเมื่อรับรองไปแล้วมีคนร้องมาก็เอาออกได้ด้วย คำถามคือเมื่อมี
กกต. เข้าไปดูแลการเลือกตั้งแล้ว แก้ไขเรื่องซื้อเสียงได้หรือไม่ ความจริงในปี
พ.ศ. 2535 มีการตั้งองค์กรกลางขึ้นเพื่อดูการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นการเลือกตั้ง
พ.ศ. 2535 จึงมีองค์กรกลางไปตรวจสอบแล้ว รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ให้ความ
สำคัญมากกับการเลือกตั้ง การเลือกตั้งของไทยเปลี่ยนรูปแบบมาเรื่อย ในปี
พ.ศ. 2500 การเลือกตั้งที่กรุงเทพมีผู้แทนได้ 9 คนเขตเดียว คือกรุงเทพเป็นเขต
เลือกตั้ง 1 เขต แล้วก็ชนกันระหว่างพรรคเสรีมนังคศิลากับพรรคประชาธิปัตย์
เกิดกรณีนับคะแนนแล้วไฟดับพอไฟมาบัตรของอีกพวกก็เพิ่มขึ้นนับใหม่
พอร่อยหรอไฟก็ดับอีก จากการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเรียงเบอร์ ต่อมาเป็น
เขตเดียว 3 คน แบบเบอร์เดียวทั้งเขตก็ใช้มาในปี พ.ศ. 2521 ที่เขตธนบุรี
ผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เสียชีวิตลง 1 คน ผู้แทนราษฎรอีกพรรค
หนึ่งคิดยังไงไม่รู้ลาออกที่อยู่ในเขตเดียวกันเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นพวง ก็เลือกตั้ง
เบอร์เดียวเป็นพวงได้ทั้ง 2 คน ครั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์ได้ไปทั้ง 2 ที่จาก
การชนะเลือกตั้งครั้งเดียว รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 แบ่งเป็นปาร์ตี้ลิสต์ทุก
รูปแบบการเลือกตั้งแก้ซื้อเสียงไม่ได้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 กำหนดให้มี
10 เขตเขตละ 8 คน มาคราวนี้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แก้อีกแล้ว ต้องรอดู
ต่อไป
การประท้วงเป็นการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างหนึ่งในประเทศที่เป็น
ประชาธิปไตย เมืองไทยการประท้วงครั้งแรกได้บอกไปแล้ว คือการประท้วงที่ใหญ่
มากในการเลือกตั้งสกปรก และการประท้วงที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ก็มีคือเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ผลการทำให้เปลี่ยนรัฐบาล การประท้วง
ปาฐกถาพิเศษ
