Page 201 - kpi20109
P. 201
200 201
ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จำนวน 46 แห่ง นอกจากนี้ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการศึกษา เขียวชอุ่ม มีอากาศดีและบริสุทธิ์เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ โดยการปลูกไม้ยืนต้นเพื่อเพิ่ม
การแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel: RDF) เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า พื้นที่สีเขียวให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย
ในอนาคต รัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศและพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองให้ได้ร้อยละ
40 ภายใน 20 ปี และส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ให้ความร่วมมือ
2.4 การติดตามและประเมินผล โดยติดตามประเมินผลรายไตรมาสและประจำปี
มีการลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงานของชุมชนและสถานศึกษาที่เข้ามาร่วมโครงการ รวมถึง วางแผนการดำเนินการ ตลอดจนติดตามและประเมินผลการดำเนินกิจกรรม จึงเป็นที่มาของ
โครงการ “ประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน” สืบสานแนวพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9
มีการตรวจสอบการปนเปื้อนน้ำชะขยะมูลฝอยบริเวณโดยรอบสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยอย่าง
สม่ำเสมอ แนวทางแรก คือ เริ่มจากปลูกป่าในใจคน จะได้รู้จักรักหวงแหน
จากการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน แนวทางที่สอง คือ การปลูกป่าในบ้านและชุมชน เชื่อมโยงกับป่าใหญ่ เป็น Food Bank
เทศบาลได้อบรมให้ความรู้การจัดการขยะต้นทางตามหลัก 3Rs กับชุมชน 9 ชุมชน และ แหล่งอาหารให้คนบริโภคได้ โดยกระทรวงมหาดไทยประสานหน่วยงานในสังกัดจัดเตรียมต้นไม้
สถานศึกษา 25 แห่ง มีผู้เข้าร่วมโครงการรวม 1,250 คน มีการลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อแจกให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมปลูกต้นไม้ใน
ของชุมชนและสถานศึกษาเพื่อให้ข้อเสนอแนะการจัดการขยะ พร้อมกับรับฟังเสียงสะท้อนเพื่อนำ พื้นที่ ภายใต้การกำกับดูแลของตนเองและดูแลรักษาให้เจริญเติบโต เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวในเมือง
มาปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงาน ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดผลเชิงประจักษ์ คือ จากปี 2559 เทศบาล และคืนความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ต่อไป โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้
มีปริมาณขยะประมาณ 80 ตัน/วัน และในปี 2560 ลดลงเหลือเพียง 76.5 ตัน/วัน ทำให้ประหยัด 1. ร่วมคิดร่วมตัดสินใจ โดยเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ
ค่าเก็บขนและกำจัดขยะได้ถึงปีละ 574,000 บาท
เอกชน และประชาชน ให้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจผ่านเวทีต่างๆ เช่น สภากาแฟ
โครงการร่วมมือร่วมใจสร้างยะลาเป็นนครแห่งสวน (Garden City) เทศบาลสัญจร เวทีประชาคม รวมไปถึงสภาประชาชน เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญกับ
เนื่องจากปัจจุบันมีการขยายตัวของบ้านเรือนประชาชนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่สีเขียว การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดอุณหภูมิ และดูแลรักษาอากาศบริสุทธิ์ รวมทั้งต้องการให้
ตามธรรมชาติที่เคยมีในอดีตลดลง รวมถึงการเกิดวิกฤตในเชิงสังคมที่เป็นผลพวงมาจากสภาวะ เมืองยะลากลับไปเหมือนในอดีตที่มีความร่มรื่น มีต้นไม้รอบเมือง และจัดประชุมวางแผนการ
ทางเศรษฐกิจ และค่านิยมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การใช้พลังงานสำหรับอำนวยความสะดวก ดำเนินงานโดยให้ผู้แทนส่วนราชการ ชุมชน ประชาชน และบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการ
สบายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาประกอบกับอุณหภูมิโลกสูงขึ้น หรือที่ ปลูกต้นไม้ยืนต้น เข้าร่วมระดมความคิดเห็น กำหนดพื้นที่การปลูก และพันธุ์ไม้
เรียกว่าสภาวะโลกร้อนและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทศบาลนครยะลา 2. ร่วมปฏิบัติ โดยจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ยืนต้นในวันสำคัญต่างๆ ซึ่งเทศบาลนครยะลา
เล็งเห็นว่าปัญหานี้นับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จึงมีแนวคิดที่จะสร้างเมืองยะลาให้เป็น ได้เตรียมพันธุ์ไม้สำหรับให้ประชาชน พนักงานเทศบาล หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนได้ร่วมปลูก
นครแห่งสวน (Garden City) มุ่งเน้นการดูแลรักษาอากาศที่บริสุทธิ์ และรักษาอุณหภูมิให้มีความ ในพื้นที่สวนสาธารณะ เช่น สวนมิ่งเมือง สวนศรีเมือง สวนขวัญเมือง บึงแบเมาะ รวมถึงภายใน
เหมาะสม โดยตั้งเป้าหมายในการลดอุณหภูมิในเขตเทศบาลนครยะลาให้ต่ำลง 2 องศา และ พื้นที่สำนักงานเทศบาลนครยะลาด้วย และจัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกการปลูกต้นไม้แก่เด็ก
มีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของภาคใต้ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อ ในสถานศึกษา โดยได้มอบกล้าไม้ให้เด็กๆ นำไปดูแลโดยจดบันทึกข้อมูลต้นไม้ที่ได้รับ การเจริญ
สร้างจิตสำนึกรักหวงแหน และความรู้สึกเป็นเจ้าของถิ่นเกิด จึงได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่ม เติบโตของต้นไม้ ชนิดพันธุ์ไม้ สถานที่ปลูกต้นไม้ และนำต้นไม้มาปลูกรวมกับครอบครัว
พื้นที่สีเขียว และปรับสภาพแวดล้อมของเมืองยะลาให้มีความร่มรื่นและรายล้อมไปด้วยความ โดยการปักป้ายชื่อเพื่อให้ครอบครัวได้กลับมาดูแล และดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ได้ปลูกไป
เป็นการสร้างจิตสำนักในการดูแลรักษาต้นไม้และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวอีกด้วย
รางวัลพระปกเกล้า’ 61 รางวัลพระปกเกล้า’ 61