Page 153 - kpi20686
P. 153

ห น้ า  | 143


                                8. การปรับเปลี่ยนในเชิงสถาบันที่ปรากฎชัดเจนที่สุด คือ การปรับเปลี่ยนในกระบวนการ
                       สรรหาผู้ด ารงต าแหน่งในองค์กรอิสระทั้งสอง อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนดังกล่าวมีข้อสังเกต คือ มี
                       การลดทอนบทบาทของฝ่ายการเมืองลง จากเดิมประเด็นนี้อาจถูกโต้แย้งได้ว่าองค์กรอิสระเหล่านี้ ถูก
                       ครอบง าโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ กล่าวคือ ผู้ด ารงต าแหน่ง ประธานศาลฎีกา ประธานศาล

                       ปกครอง ตัวแทนจากศาลรัฐธรรมนูญ และตัวแทนจากองค์กรอิสระทางการเมืองอื่น ซึ่งบุคคลที่กล่าว
                       มานี้ไม่ได้ยึดโยงหรือมีที่มาจากประชาชน
                                9. การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี พ.ศ. 2549 และปี พ.ศ. 2557 เกิดขึ้นจากสาเหตุ
                       หลายประการ หนึ่งในนั้น คือ การทุจริตเชิงนโยบายของพรรคการเมืองและนักการเมือง ซึ่ง

                       กระบวนการตรวจสอบในสภานิติบัญญัติแห่งชาติและอค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญขาดประสิทธิภาพ
                       ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผู้มี
                       อ านาจทางการเมืองได้ชี้ให้คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญและคณะกรรมาธิการพิจารณาประกอบ
                       ร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า

                       ด้วยองค์กรอิสระทั้งสอง คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและ
                       คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองพบว่า มีการยกเว้น
                       คุณสมบัติของผู้ด ารงต าแหน่งในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดังที่ปรากฎ

                       ในบทที่ 2 ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และสมควรศึกษาวิจัยในล าดับต่อไป

                       ข้อเสนอแนะส าหรับการวิจัยครั้งต่อไป
                                จากการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยมีประเด็นศึกษาที่น่าสนใจในการศึกษาวิจัยครั้งต่อไป ดังนี้

                                1. ควรศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการลดข้อจ ากัดด้านงบประมาณและบุคลากรของ
                       คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อเป็นการ
                       ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการหรือแผนการท างานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถ

                       ด าเนินการตรวจสอบ (ป้องกันการทุจริต/ปราบปรามการทุจริต/การตรวจเงินแผ่นดิน) ให้มีความ
                       รวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
                                2. ควรศึกษาเกี่ยวกับขอบเขตการให้อ านาจกับคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินในมุมของ
                       การให้อ านาจในการด าเนินคดี เนื่องจากจ านวนเรื่องที่ส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินส่งไปยัง

                       ส านักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีเป็นจ านวนมาก เพื่อเป็นการเพิ่มความรวดเร็ว
                       ในการด าเนินคดีขององค์กรอิสระในรวดเร็วยิ่งขึ้น
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158