Page 52 - kpi20686

ห น้ า | 42

3. นโยบายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ส านักนโยบายและยุทธศาสตร์ได้สรุปสาระส าคัญของการมอบนโยบายของคณะกรรมการ
ป.ป.ช. ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 สามารถสรุปเป็นประเด็นได้ดังนี้
3.1. ด้านการป้องกันการทุจริต

3.1.1 น ายุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3
(พ.ศ. 2560 - 2564) เป็นเครื่องมือในการท างานร่วมกับภาคีเครือข่าย ปรับเปลี่ยนวิธีการป้องกันการ
ทุจริตให้สอดคล้องเหมาะสม ก าหนดระยะเวลาที่ชัดเจน มีทิศทาง เป้าหมาย แนวคิดที่เป็นภาพรวม
และแยกวิธีการปฏิบัติให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยการเผยแพร่และใช้บริบทจาก

ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564)
ขับเคลื่อนงานป้องกันการทุจริตให้มากขึ้น และคิดวิธีการเผยแพร่ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) อย่างมีประสิทธิภาพ และส านักป้องกันการ
ทุจริตทั้งหมดต้องปรับบริบท เพื่อแปลงยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด สร้างความตระหนักและรับรู้ให้ประชาชน
เกิดการรวมตัวไม่ยอมรับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงความคิดและทัศนคติ
เกี่ยวกับการทุจริต สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งจะน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ

ประเทศต่อไป รวมถึงการด าเนินการตามบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Understanding:
MOU) กับหน่วยงานต่าง ๆ ต้องปรับเปลี่ยนให้มีความสอดคล้องกับบริบทของการเปลี่ยนแปลง ซึ่ง
เป็นการด าเนินงานระยะต่อไป
3.1.2 บูรณาการงานป้องกันการทุจริตระดับชาติและระดับจังหวัด เร่งประสานและ
ใช้โอกาส ที่กระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงยุทธศาสตร์

ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) และขอความร่วมมือ
ในการบูรณาการงานป้องกันการทุจริตร่วมกัน และส านักงาน ป.ป.ช. ต้องประสานส านักงบประมาณ
และคณะรัฐมนตรีในการจัดสรรงบประมาณด าเนินการระดับจังหวัดด้วย หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ

ให้มีคณะกรรมการบูรณาการจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้อ านวยการส านักงาน
ป.ป.ช. ประจ าจังหวัดเป็นฝ่ายเลขานุการ ส านักงาน ป.ป.ช. ประจ าจังหวัดต้องด าเนินงานเกี่ยวกับงาน
ป้องกันการทุจริต โดยการปลูกฝัง และปรับค่านิยมของคนในท้องถิ่นให้เกิดขึ้นให้ได้ และต้องสร้างองค์
ความรู้ คุณธรรม จริยธรรมให้แก่กลุ่มเด็กและเยาวชน โดยอาศัยบุคคลในจังหวัดที่มีความรู้ ทั้งปราชญ์

ชาวบ้าน กัลยาณมิตร ให้มีส่วนร่วมในการด าเนินการมากขึ้น
3.1.3 ด าเนินการปรับวิธีการป้องกันการทุจริตให้สอดคล้องกับการด าเนินงาน
ป้องกันการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชน การท าให้รัฐวิสาหกิจมีความโปร่งใส จะส่งผลต่อ
การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยน าแนวทางการบริหารรัฐวิสาหกิจโปร่งใสของรองนายกรัฐมนตรี

(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ในการปาฐกถาพิเศษ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2559 ณ โรงแรมเบสท์
เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ กรุงเทพฯ ซึ่งครอบคลุมหน่วยงาน ปัญหาและความโปร่งใส เพื่อเป็น
แนวทางในการขยายผลการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต