Page 50 - kpi20686
P. 50
ห น้ า | 40
เมื่อนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาและด าเนินการตามค าเรียกร้อง
ดังกล่าว ความประการนี้มีปรากฏตามค าสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 113/2517 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.
2517 ว่า “ด้วยปรากฏว่ามีผู้ร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ ตรงมาที่นายกรัฐมนตรีและส านัก
นายกรัฐมนตรีมากราย และมีการกล่าวอ้างว่า มีการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการอยู่เสมอ
ซึ่งบางกรณีเกี่ยวข้องกับข้าราชการหลายกระทรวง ทบวง กรม หรือรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลนี้มีเจตจ านง
อยู่ว่า จะต้องป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการให้หมดสิ้นไปหรือ
อย่างน้อยก็ให้บรรเทาเบาบางลง” จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและ
ประพฤติมิชอบในวงราชการขึ้น โดยอาศัยอ านาจตามความใน ข้อ 9(6) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ แต่ไม่ทันได้เริ่ม
ด าเนินการ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้ลาออกจากต าแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียก่อน หลังจากนั้นเมื่อ
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ได้ปรับปรุง
คณะกรรมการ ป.ป.ป. ใหม่ และเริ่มด าเนินงานตั้งแต่ วันที่ 2 กรกฎาคม 2517 หลังจากนั้นไม่นานก็
ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
พ.ศ. 2518 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2518 และตราพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2518 จัดตั้งส านักงาน ป.ป.ป. สังกัดส านัก
นายกรัฐมนตรีขึ้น
เมื่อได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 ซึ่งมีการ
ก าหนดองค์กรอิสระขึ้น รวม 8 องค์กรหนึ่งในจ านวนนั้น ได้มีองค์กรหนึ่งที่มีอ านาจหน้าที่เกี่ยวกับการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริต เรียกว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มี
ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยธุรการ ที่เป็นอิสระใน
การบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการด าเนินการอื่น
ต่อมาในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2542 (ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกาศราชกิจจานุเบกษาเล่ม 116 ตอนที่
114 ก วันที่ 17 พ.ย. 2542) เป็นผลให้ส านักงาน ป.ป.ป. ได้ถูกยุบเลิกไป และได้มีการจัดตั้งเป็น
ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่เรียกโดยย่อว่า “ส านักงาน
ป.ป.ช.” ขึ้น (ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, ม.ป.ป.)
การประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ซึ่งยังคงบัญญัติให้
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและให้มี
อ านาจหน้าที่นอกเหนือไปจากที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
บางประการ ที่ส าคัญ คือ ให้มีอ านาจหน้าที่ก ากับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ด ารงต าแหน่งทาง
การเมืองรวมอยู่ด้วย เพื่อให้สอดรับกับบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ในพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ซึ่งได้
ประกาศและมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 จึงได้ปรับปรุงกลไก และเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการปฏิบัติงาน นอกเหนือไปจากที่ได้มีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 หลายประการ ได้แก่

