Page 100 - kpi20756
P. 100

100     การประชุมวิชาการ
                    สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
            ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                       ในการเสริมสร้างสร้างความเป็นพลเมือง ควรมีแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ 20 ปี
                  เสริมสร้างการเรียนรู้ทางการเมืองในทุกระดับและในประเด็นปัญหาสำคัญของประเทศของคน

                  ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ทุกวัย ที่สะดวก ง่าย และเรียนได้เอง ทุกเวลา เพื่อสร้างวัฒนธรรมการเมือง
                  ธรรมาภิบาล Good Governance Political Culture หรือไม่ หรือให้วัฒนธรรมการเมืองไทย
                  เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของโลกและประเทศในแต่ละช่วงเวลา



                  5. ความส่งท้าย: ประชาธิปไตยเพื่อโชว์หรือเพื่อใช้



                       ข้อถกเถียงทางการเมืองที่ร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะในเวลานี้ คือ ประเด็นระหว่าง

                  ประชาธิปไตยกับการสืบทอดอำนาจ หรืออนุรักษ์นิยมประชาธิปไตยกับเสรีนิยมประชาธิปไตย
                  หรือการให้ความสำคัญแก่ประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศมากกว่าความชอบธรรมในการเข้าสู่
                  และใช้อำนาจ จะทำให้ความยากจนลดลง ลดความเหลื่อมล้ำลง ส่งผลให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ

                  มากขึ้นและทำให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น หรือไม่อีกนัยหนึ่งคือ ในการต่อสู้ทางความคิดกัน
                  ระหว่างแนวคิดปฏิบัตินิยมกับแนวคิดหลักการนิยมนั้น ฝ่ายปฏิบัตินิยมให้ความสำคัญแก่

                  การบริหารพัฒนาบ้านเมืองที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่ติดใจว่าจะมีความเป็นประชาธิปไตยมากหรือ
                  น้อยเพียงใด โดยเห็นว่า สาระ สำคัญกว่า รูปแบบ ในขณะที่ ฝ่ายหลักการนิยม เห็นว่า
                  การเมืองการปกครองที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด น่าจะนำไปสู่ การเมือง “ที่ดีกว่า”

                  และการแก้ปัญหาความยากจนที่ได้ผลมากกว่าในอนาคต แม้ว่าการเมืองในปัจจุบันอาจจะ
                  เปราะบาง และมีต้นทุนที่สูง


                       ความเหลื่อมล้ำที่นำมาซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองได้สั่งสมมาในสังคมไทยเป็นเวลานาน
                  จนยากต่อการแก้ไขนั้น มีสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการที่การเมืองไทยพัฒนาไปในทิศทาง

                  ที่กลายเป็นประชาธิปไตยทุนนิยมที่ขับเคลื่อนด้วยค่านิยมของการแข่งขันแสวงหาความร่ำรวยโดย
                  ไม่ให้ความสำคัญแก่การสร้างโอกาสและความสามารถที่เท่าเทียม และความไม่เข้าใจและรอบรู้
                  จริงถึงความหมายและสาระสำคัญของหลักการประชาธิปไตยตะวันตก ผนวกกับการที่สังคมไทย

                  ยังไม่ตกผลึกความคิดทางการเมืองในเชิงเป้าหมายร่วมกันว่า ประชาธิปไตยไทย พลเมืองไทย
                  พรรคการเมืองไทย สถาบันการเมืองไทย การเข้าสู่อำนาจ การใช้อำนาจและการควบคุมและ

                  ตรวจสอบการใช้อำนาจ ควรเป็นเช่นใด เงื่อนไขทางสังคมและเศรษฐกิจดังกล่าวนี้ จึงผลักไส
                  คนไทยเข้าสู่กับดักวงจรอุบาทว์ของ “ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์อุปถัมภ์” ที่เติบโตขึ้นมา
                  บนฐานของโครงสร้างสังคมแบบสืบสถานะที่ไม่ยึดถือความสามารถและเคารพในเหตุผลและไม่มี

                  ความเป็นธรรม สังคมไทยจึงได้ละเลยหลงลืมคติทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในแบบ
                  วิถีตะวันออกที่ให้ความสำคัญแก่ การให้อภัย การรอมชอม การแบ่งปัน การอยู่ร่วมกัน การรับ
        เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 2   ทางความคิดและผลประโยชน์ระหว่างทหาร ฝ่ายเสรีนิยมคนรุ่นใหม่ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจึงยังดำรงอยู่
                  ผิดชอบร่วมกัน และการให้ทุกคนมีที่ยืนในพื้นที่การเมือง


                       การเมืองไทยที่ผ่านมา จึงเป็นการเมืองแบบแก่งแย่งอำนาจ Retributive Politics ความขัดแย้ง


                  ต่างฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจกัน มีความโกรธแค้น ไม่พอใจต่อกัน ยังไม่ให้อภัยกัน พร้อมที่จะเกิด
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105