Page 97 - kpi20756
P. 97

การประชุมวิชาการ
                                                                                        สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21    7
                                                                                        ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                            7.  การตรวจสอบถ่วงดุลกันและกันของทุกฝ่าย


                              กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ มีหน้าที่ร่วมกันกำหนดมาตรฐานทาง
                      จริยธรรม ซึ่งต้องระบุให้ชัดแจ้งด้วยว่าการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมใด
                      มีลักษณะร้ายแรง เพื่อใช้บังคับแก่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

                      ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาล รัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ
                      รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี มาตรฐานทางจริยธรรม

                      อย่างร้ายแรงเป็นลักษณะต้องห้ามที่สำคัญประการหนึ่ง และอาจเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งได้
                      (มาตรา 219)


                      4. ความเห็นต่างที่มีต่อบทบัญญัติบางประการในรัฐธรรมนูญ 2560




                            จากการวิเคราะห์เอกสารและสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและ
                      การประชุมปฏิบัติการ มีข้อโต้แย้งว่า แนวทาง มาตรการและกลไกที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ 2560
                      จะช่วยเสริมเสถียรภาพทางการเมืองได้เพียงใดและในบางเรื่องไม่ได้ส่งเสริมความเป็น

                      ประชาธิปไตย ซึ่งพอที่จะประมวลความเห็นแย้งความเห็นต่างได้ 10 ประการ ดังนี้


                      4.1 ประสิทธิภาพกับความชอบธรรม: สมาชิกวุฒิสภามีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี

                            การให้สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 250 คน (จากการแต่งตั้งจำนวน 200 คน) มีหน้าที่และ
                      อำนาจออกเสียงเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 5 ปีนับแต่รัฐธรรมนูญ 2560

                      มีผลใช้บังคับ เป็นการบั่นทอนพลังทางการเมืองของผู้แทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง
                      เป็นการสืบทอดอำนาจ และจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมือง

                      อย่างไร

                      4.2 การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


                            การกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกา ทำหน้าที่วินิจฉัยสั่งการในการถอดถอนผู้ดำรง
                      ตำแหน่งทางการเมืองแทนการควบคุมทางการเมืองกันเองของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
                      มีความถูกต้อง ชอบธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตย หรือไม่ เป็นการทำให้พัฒนาการ

                      ทางการเมืองของพรรคการเมืองและ ส.ส.และ ส.ว. ล่าช้าออกไป หรือไม่


                      4.3 การเพิ่มหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ

                            การกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ตรวจสอบและวินิจฉัย
                      การทำหน้าที่และการใช้อำนาจทางการเมือง เป็นการลดทอนพลังทางการเมืองในการถ่วงดุลและ

                      ตรวจสอบกันเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะผู้แทนของประชาชน หรือไม่ เช่น
                      การเพิ่มอำนาจให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญในการสั่งให้รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. พ้นจากตำแหน่งในกรณี
                      ที่วินิจฉัยว่ามีส่วนในการใช้งบประมาณ การสั่งให้ รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. พ้นจากตำแหน่ง               เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 2

                      ในกรณีขาดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง หรือกรณีที่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้กระทำ
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102