Page 23 - kpi21668
P. 23
การเสวนาปรึกษาหารือเพื่อสันติ (Deliberative Dialogue for Peace) 21
และปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสลับซับซ้อนในเชิงเทคนิคสูง มีความ
เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น (Dryzek, 1987 อ้างถึงใน โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์,
2556, น. 6)
ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้นมีความแตกต่างกับค่า
นิยมและวิธีปฏิบัติแบบอื่นๆ ของรูปแบบการเมืองทั่วไปคือ เน้นการก
ระตุ้นให้ประชาชนไม่คำานึงถึงเฉพาะแต่ผลประโยชน์ของตนเท่านั้น แต่
จะมุ่งให้ประชาชนเรียนรู้ที่จะรับฟังผู้อื่นและมองผลประโยชน์ของผู้อื่น
เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงหาทางออก (Fishkin, 2009) นักวิชาการและ
นักพัฒนาประชาธิปไตยส่วนใหญ่เริ่มเห็นสอดคล้องกันว่า ประชาธิปไตย
แบบปรึกษาหารือเป็นแนวทางที่ต้องส่งเสริมและนำามาประยุกต์ใช้
ในกระบวนการตัดสินใจสาธารณะ (Goodin, 2012: 2) อย่างไรก็ตาม
ปัญหาที่สำาคัญก็คือการนำากระบวนการประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ
มาใช้ในกระบวนการตัดสินใจนโยบายสาธารณะได้อย่างเหมาะสมนั้น
มีกระบวนการขั้นตอนอย่างไร ใครบ้างที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในนโยบาย
สาธารณะนั้นซึ่งเป็นผู้ที่ควรเข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าว
สำาหรับการกำาหนดประเด็นในการจัดเวทีระดมหรือรับฟัง
ความคิดเห็นโดยกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม
จำาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำาแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ
แบบปรึกษาหารือเข้ามาใช้ ซึ่งที่ผ่านมาแนวคิดเรื่องประชาธิปไตย
แบบปรึกษาหารือนั้นได้รับความสนใจและกลายเป็นแนวทางสำาหรับ
ปฏิบัติการเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง (Dyzek 2000; Elster 1998
อ้างถึงใน โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์, 2556) ซึ่งประชาธิปไตย
แบบปรึกษาหารือนั้นเป็นการสร้างเวทีถกแถลงและการอภิปรายกัน
inside_ cc.indd 21 14/12/2563 19:40:28