Page 172 - 22373_Fulltext
P. 172

ในขณะเดียวกันก็จะมีปัญหากับผู้ปกครอง “ไม่เอาไปแจกก็โกรธอีก” เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเทศบาล

              “เหมือนกับเราไปสอบสวนเค้า ถ้าเราสอบสวนตามข้อเท็จจริง เราไม่ห่วงเลย แต่ถ้าสอบสวนแล้วต้องไปคอยช่วย
              เค้าด้วย ถามว่าเราจะตั้งประเด็นตรงนี้เพื่ออะไร มันก็หนักคูณสองเหมือนกัน ไม่รู้จะไปตั้งประเด็นท าไม” ท้าให้

              เทศบาลไม่สามารถติดตามการใช้ทุนได้

                        8) ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เด็ก แม้ว่าทางโรงเรียนจะได้ปลูกฝังพื้นฐานต่าง ๆ ให้แก่เด็ก
              แต่พ่อแม่ไม่มีเวลาที่จะมาดูแลเด็ก เช่น พ่อแม่ต้องไปท้างาน ยายเป็นใบ้ อยู่กันมาโดยตลอด เด็กไม่พูดเพราะยาย

              พูดไม่ได้ ท้าให้เทศบาลต้องน้าเด็กออกมาจากครอบครัว แต่ “พ่อแม่ก็ร้องห่มร้องไห้ ยายกับหลานก็รักกัน
              ไม่สามารถแยกจากกันได้” เทศบาลต้องน้าเด็กไปเข้าโรงเรียนพิเศษเพื่อเริ่มฝึกออกเสียง

                        9) เด็กนักเรียนที่ยากจน ส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงเรียนของเทศบาล และเทศบาลสามารถดูแลได้ดี ด้วย
              เพราะท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือได้รวดเร็ว มีงบประมาณจ้านวนมากเมื่อเทียบกับสถานศึกษาของ สพฐ. ท้าให้

              เด็กไม่ไปเรียนเนื่องจากไม่พร้อม ด้อยโอกาส ผู้ปกครองจึงมักให้ลูกหลานเข้ามาเรียนโรงเรียนท้องถิ่น ท้าให้เด็ก
              ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ด้อยโอกาส ยากจน ส่วนผู้ปกครองที่มีฐานะจะให้เด็กเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้
              เด็กบางส่วนยังมาจากพื้นที่นอกเขตเทศบาลที่ขาดความพร้อมด้านสภาพเศรษฐกิจ ท้าให้เทศบาลต้องดูแลเด็ก

              กลุ่มนี้ เป็นปัญหาที่ซ้้าซ้อน แก้ปัญหาได้ยาก

                        อย่างไรก็ตามเทศบาลยังขาดข้อมูลความต้องการของเด็ก ท้าให้ไม่ทราบถึงสภาพปัญหาในการ
              ประกอบอาชีพของเด็ก ท้าให้เกิดลักษณะการด้าเนินโครงการแบบเหมารวม ดังนั้นการแก้ไขปัญหาอาจจะเริ่มที่
                   การวิจัยขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นกลไกลดความเหลื่อมล ้าทางด้านการศึกษา
              ตัวเด็กเอง โดยการสอบถามความต้องการของเด็กเรื่องอาชีพว่าต้องการหรือไม่ ต้องการอย่างไร หรืออาชีพอาจ
              ไปเชื่อมโยงกับชุมชนได้ เช่น ห้างร้าน โดยการด้าเนินโครงการอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่ไปแก้ปัญหา แต่ต้องการท้า

              ความเข้าใจกับสภาพปัญหา โดยอาจเป็นโครงการในระยะที่ 1 เพื่อให้ได้ข้อมูลความต้องการ หลังจากนั้นจึง
              ด้าเนินโครงการอื่น ๆ ต่อมา เพราะหากเทศบาลด้าเนินโครงการแล้ว โครงการไม่สามารถด้าเนินการได้ตรงตาม
              ความต้องการของเด็กก็จะท้าให้ไม่เกิดการต่อยอด เด็กท้าแล้วไม่สามารถน้าไปปฏิบัติได้จริง เกิดความสิ้นเปลือง

              แม้ว่าสุดท้ายอาจจะเหลือเด็กเพียง 10-20 คน แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้ “ทีละนิดทีละหน่อย”

                        10) ในส่วนของเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของเทศบาลยังพบปัญหาของเด็ก ด้วยเพราะเด็กส่วน
              ใหญ่ที่มาเรียนค่อนข้างมีฐานะทางเศรษฐกิจ แต่จะพบปัญหาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางศูนย์ ที่ส่วนใหญ่พ่อแม่
              ต้องท้างาน ท้าให้น้าเด็กมาฝากเลี้ยงไว้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเด็กมีอายุประมาณ 2 ขวบขึ้นไป บางส่วนเป็น

              เด็กพิเศษที่ไม่สามารถเข้าเรียนต่อในที่อื่นได้ แต่โดยส่วนใหญ่เด็กจะอยู่ได้ไม่นาน ด้วยเพราะพ่อแม่ย้ายถิ่นฐาน
              ประจ้า เด็กจะเรียนอยู่ประมาณ 1 ปี แล้วย้ายท้าให้ไม่สามารถติดตามได้

                        นอกจากนี้ในบางศูนย์ฯ ศูนย์ไม่สามารถรับเด็กได้ทั้งหมด อาทิ รับเพียง 200 คน แต่มาสมัครถึง 250

              คน ด้วยเป็นที่นิยมของผู้ปกครอง ผู้ปกครองมีฐานะทางเศรษฐกิจดี ขณะที่บางศูนย์ผู้ปกครองไม่นิยม เด็กส่วน
              ใหญ่เป็นเด็กฝากเลี้ยง ท้าให้มีปัญหาเรื่องการกินการอยู่ ท้าให้โอกาสของแต่ละศูนย์แตกต่างกัน เกิดการ

              “แย่งกันมา ไม่ให้ก็โกรธ” เป็นค่านิยมของผู้ปกครองในการเลือกสถานที่เรียนให้กับบุตร “นาอ้อยดีกว่า
              วัดสะพานค าไม่น่าอยู่ ขนาดเกลี่ยก็ยังไม่ยอม หลักสูตรเดียวกันนะ นี่คือความที่เค้าปลูกฝังกันมา”

                        11) เทศบาลมีครูสอนเด็กด้อยโอกาส โดยเทศบาลมีครูด้อยโอกาสที่ท้าหน้าที่ในการเก็บข้อมูลตามที่
              กรมส่งเสริมก้าหนด โดยเข้ามาท้างานในส่วนของกลุ่มการศึกษา เป็นการท้างานประสานกันกับองค์การบริหาร






      148     วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177