Page 94 - kpiebook62001

- มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ทุกคนได้รับเงินจ านวน 500

บาทเพียงครั้งเดียว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปี โดยเติมเงินในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนธันวาคม
พ.ศ. 2561 คาดว่าจะใช้งบประมาณ 7,250 ล้านบาท

- มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพส้าหรับผู้สูงอายุ

ที่มีรายได้น้อย ให้ส าหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส าหรับการดูแลสุขภาพ จ านวน
2.2 ล้านคน โดยจะจ่ายคืนผ่านการเติมเงินในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 2,200 ล้านบาท

- มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านส้าหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ให้ส าหรับผู้สูงอายุหรือ 60 ปีขึ้นไปที่มีบัตร

สวัสดิการแห่งรัฐส าหรับการเช่าที่อยู่อาศัย และผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 มีจ านวน 2.2 แสนคน
และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.3 แสนคน ณ เดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ให้มีผลตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 จนถึงเดือน

กันยายน พ.ศ. 2562 โดยจะจ่ายผ่านการเติมเงินในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 920 ล้าน

บาท
โดยรวมแล้วมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 37,430 ล้านบาท

โดยใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก

4.1.3.2 มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 และการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน

13
อิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (มกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2562)
เนื่องจากกระทรวงการคลังเห็นว่ามาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในระยะที่ 1 ได้ผลดี ซึ่ง

ช่วยให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้หลุดพ้นจากเส้นความยากจนได้ จึงเห็นสมควรเสนอให้มีการด าเนินการต่ออีก 6

เดือน เพื่อส่งเสริมโอกาสในการพัฒนาตนเองให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพและ
การมีรายได้ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

- กลุ่มเป้าหมาย: ผู้เข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา และผู้ที่ผ่านการพัฒนาแล้ว

แต่ยังมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
- สวัสดิการที่ได้รับ: เป็นการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือน

มิถุนายน พ.ศ. 2562 โดยที่จ านวนเงินเหมือนกับมาตรการฯ ในระยะแรก

- งบประมาณที่ใช้: คาดว่าจะใช้งบประมาณ 4,370 ล้านบาท โดยจะใช้จ่ายจากเงินกองทุนประชารัฐเพื่อ
เศรษฐกิจฐานราก และกระทรวงการคลังจะด าเนินการเสนอขอรับเงินจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจ าปี

งบประมาณ พ.ศ. 2562 จากงบกลาง รายการส ารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจ าเป็น เมื่อร่างพระราชบัญญัติการจัด

ประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. ... มีผลบังคับใช้

13 ที่มา: มติคณะรัฐมนตรี (15 มีนาคม 2562) เรื่อง ขอรับจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินส ารอง
จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจ าเป็น
85