Page 98 - kpiebook62001
P. 98
“สมมติว่าเราท าไม่ได้ขึ้นมา ป้าพูดตรง ๆ ป้าเขียนหนังสือไม่เป็น ถ้าให้ป้าไปลงทะเบียน ป้า
เขียนไม่เป็นนะ มันล าบากหลายอย่างนะ ...... เขาก็สัมภาษณ์เราไปแล้วไงว่าเรามีอาชีพทอผ้าอยู่แล้ว ใน
เมื่อเขาจะให้เพิ่ม ซื้อด้ายมาให้สิยังจะดีกว่า ..... แก่แล้ว ให้ไปท างานท าการก็ไม่ไหว เวลาทอผ้าอยู่กับ
บ้าน มีกี่ที่บ้านใครบ้านมัน เช้าขึ้นมาเราก็ทอละ ถ้าเราเมื่อยเราเหนื่อยเราจะออกไปพัก มันไม่มีใครมา
บังคับให้เราทอจะพักก็พักได้”
ที่มา: จากการสัมภาษณ์กลุ่มผู้มีบัตร
ประการสุดท้าย รัฐบาลมีมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (การฝึกอาชีพ) เพื่อจูงใจให้
คนเข้าร่วมการหางานท าและการฝึกอาชีพ ผ่านการให้วงเงินในการซื้อของจากร้านธงฟ้าประชารัฐมากขึ้น ส าหรับกลุ่ม
คนที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทจะให้เพิ่มเดือนละ 200 บาท และผู้ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000
บาทจะให้เพิ่มเดือนละ 100 บาท ซึ่งสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ โดยหลักการแล้วมาตรการนี้น่าจะช่วยสร้าง
แรงจูงใจ และอ านวยความสะดวกให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น
แม้ว่าตัวเลขจากเอกสารเสนอคณะรัฐมนตรีพบว่ามีคนเข้าร่วมการฝึกอาชีพ กว่า 4.15 ล้านคน (จากผู้มีบัตร
สวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด 14.5 ล้านคน) แต่จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ท าการสัมภาษณ์นั้น ไม่มีผู้ใดไปเข้าร่วมการฝึก
อาชีพเลย ทั้งนี้ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจ านวน 3.1 ล้านคนที่ลงทะเบียนจากการลงพื้นที่ภายใต้โครงการไทยนิยม
ยั่งยืน นั้นเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการที่ไม่สามารถมาลงทะเบียนที่หน่วยรับลงทะเบียนได้ ทั้งนี้ คณะวิจัย
ตระหนักถึงข้อจ ากัดของการสัมภาษณ์ดังนี้ กลุ่มตัวอย่างนั้นไม่สามารถเป็นตัวแทนของผู้มีบัตรทั้งหมดได้ และการสุ่ม
อาจไม่พบผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพ และกลุ่มผู้ที่สัมภาษณ์อาจมีความกังวลใจหากเปิดเผยว่าตนเองไปเข้ารับการฝึก
อาชีพและมีรายได้เกินเกณฑ์แล้ว ซึ่งอาจกลัวว่าจะถูกตัดสิทธิ์จากการสัมภาษณ์ของคณะวิจัย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 3 ล้านคน
ปฏิเสธที่จะเข้ารับการฝึกอาชีพให้เหตุผลว่า ‘พอใจกับความเป็นอยู่ในตอนนี้’ (PPTV Online, มีนาคม 2561) แต่จาก
เนื้อหาในข่าวนั้นไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 3 ล้านคนนั้นเป็นใคร
มีสภาวะร่างกายอย่างไร และมีความสามารถที่พร้อมจะท างานได้หรือไม่ จากการสัมภาษณ์ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของ
คณะวิจัย สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมการฝึกอาชีพ เนื่องจากส่วนหนึ่งมีอาชีพอยู่แล้ว และยังคงยึดอาชีพเดิมในการหารายได้
สาเหตุส าคัญที่ไม่ไปเข้าร่วมการฝึกอาชีพคือ ค่าเสียโอกาส ผู้ถูกสัมภาษณ์ให้เหตุผลว่าหากเข้าร่วมการฝึกอาชีพจะต้อง
สูญเสียรายได้จากงานที่ท าอยู่ปัจจุบัน อีกส่วนหนึ่งกล่าวว่าจะต้องเสียค่าเดินทางเข้าไปสถานที่ฝึกอาชีพหรือบางคนก็ไม่
มีค่าเดินทางเลย บางคนก็จะเสียโอกาสในการรับจ้างรายวัน ซึ่งบางครั้งงานที่ได้รับมาไม่มีความแน่นอนว่าจะได้ไปท าใน
วันไหน บางคนเสียโอกาสในการไปรับอาหารกลางวันจากสถานสงเคราะห์
โครงการเพื่อรองรับมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประกอบไปด้วย 4 มิติ ได้แก่ การ
มีงานท า การฝึกอบรมอาชีพและการศึกษา การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และการเข้าถึงสิ่งจ าเป็นขั้นพื้นฐาน
พิจารณาเฉพาะมิติการมีงานท าและการฝึกอบรมอาชีพและการศึกษา โครงการข้างในประกอบไปด้วยหลักสูตรที่จัดท า
อยู่แล้วของกระทรวงต่าง ๆ เช่น การจัดหางานในประเทศและต่างประเทศของกรมการจัดหางาน การรับงานไปท าที่
89