Page 130 - kpiebook62016
P. 130
113
ถูกเรียกว่าสงครามสกปรก (Dirty War) ส่งผลให้ความไม่พอใจรัฐบาลในสังคมยิ่งรุนแรงขึ้น พร้อมกับ
312
การประณามรัฐบาลทหารในเวทีโลก ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศของอาร์เจนตินายิ่งตกต ่าลง
ภายใต้แรงกดดันจากกระแสต่อต้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลทหารจึงตัดสินใจเบี่ยงเบน
ความสนใจจากปัญหาภายในประเทศด้วยการบุกยึดหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ (Falkland Islands) หรือที่
อาร์เจนตินาเรียกว่า หมู่เกาะมาลวีนาส (Malvinas) จากสหราชอาณาจักร ในเดือนเมษายน ค.ศ.
1982 แต่ความพยายามของรัฐบาลทหารกลับประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเมื่อกองทัพสหราช
อาณาจักรได้ขับไล่กองทัพอาร์เจตินาพ้นไปจากหมู่เกาะฟอล์คแลนด์อย่างรวดเร็ว เมื่อความหวัง
สุดท้ายในการจัดการกับกระแสต่อต้านรัฐบาลต้องล้มเหลวลง รัฐบาลทหารจึงออกกฎหมายนิรโทษกรรม
ให้แก่ตนเอง ก่อนที่จะประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1983
ความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของรัฐบาลทหาร ทั้งจากนโยบายเศรษฐกิจที่ผิดพลาด การ
ปราบปรามประชาชน และการท าสงครามในหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ ส่งผลให้คณะทหารต้องสละอ านาจ
รัฐโดยปราศจากอ านาจต่อรอง และกลุ่มการเมืองสามารถเคลื่อนไหวโดยไม่จ าเป็นต้องค านึงถึงการ
313
ประนีประนอมกับกลุ่มทหาร ในการเลือกตั้งทั่วไป ค.ศ. 1983 เป็นการแข่งขันระหว่างสองพรรค
การเมืองขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งขึ้นก่อนหน้าการรัฐประหารใน ค.ศ. 1976 และฟื้นตัวขึ้นมาท ากิจกรรม
ทางการเมืองอีกครั้งหลังจากการล่มสลายของรัฐบาลทหาร ได้แก่ กลุ่มนิยมเปรอง ภายใต้ชื่อพรรค
Justicialist และพรรค Radical ซึ่งเป็นพรรคแนวเสรีนิยม
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ปรากฏว่า พรรค
Radical ได้รับชัยชนะ เนื่องจากความเชื่อว่าพรรคที่ยึดถือแนวทางเสรีนิยมจะช่วยส่งเสริมการจรรโลง
ประชาธิปไตยในประเทศ นอกจากนี้ความหวาดระแวงว่ากลุ่มนิยมเปรองจะหันกลับไปใช้มาตรการ
จ ากัดสิทธิพลเมืองเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล และผลจากการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของรัฐบาล
314
ทหาร ส่งผลให้สหภาพแรงงานอันเป็นฐานเสียงของกลุ่มนิยมเปรองต้องอ่อนแอลง นายราอูล อัล
ฟองซิน (Raul Alfonsin) ผู้น าพรรค Radical ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีและเป็นประธานาธิบดีคน
แรกที่ได้รับเลือกตั้งหลังจากการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้ง
312 Aldo C. Vacs, op. cit., p. 407.
313
Marcelo Cavarozzi, op. cit., p. 227.
314 Aldo C. Vacs, op. cit., p. 409.